ป.ป.ช.พบข้อมูล 'ผอ.ขนมจีนคลุกน้ำปลา' ส่อทุจริตแล้ว 2 เรื่อง

ป.ป.ช.พบข้อมูล 'ผอ.ขนมจีนคลุกน้ำปลา' ส่อทุจริตแล้ว 2 เรื่อง

ป.ป.ช.พบข้อมูล ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างโครงการอาหารกลางวัน ปี 57 - 61 เผย 10 ข้อร้องเรียน มีมูลแล้ว 2 เรื่อง เตรียมสรุปผล 8 มิ.ย. นี้

จากกรณีมีผู้เผยแพร่คลิปโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ม.17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ให้เด็กนักเรียนอนุบาลกิน “ขนมจีนคลุกน้ำปลา” ในถาดหลุม และมีเสียงถามเด็กว่า รับประทานกับน้ำปลาใช่ไหม บางรายมีลักษณะเหมือน ขนมจีนราดแกง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ตั้งคำถามว่า เกิดการทุจริตในโครงการอาหารกลางวันหรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง

ล่าสุด วันนี้ (7 มิ.ย.) บรรยากาศภายในโรงเรียนยังคงมีผู้ปกครองนักเรียน กรรมการโรงเรียน สลับผลัดเปลี่ยนไปสังเกตการณ์ตลอดเวลา และได้นำหลักฐานแสดงให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และผู้สื่อข่าวดูถึงความไม่ชอบมาพากลตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

นางสาวจินตนา พริ้มพลาย สมาชิก อบต. หมู่ที่ 17 กับ นายประวิง ท่องวิถี ผู้ปกครองนักเรียน ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อประมาณปี 2559 ทางผู้นำชุมชน คณะกรรมการโรงเรียน พร้อมด้วยผู้ปกครอง ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 2 และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรื่อง โครงการอาหารกลางวันที่ไม่มีคุณภาพติดต่อกันมาตั้งแต่ ผอ. คนนี้เข้ามารับตำแหน่งที่โรงเรียน โดย ผอ. เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้ออาหารมาเอง ใช้เงินประมาณ 2,500 บาทต่อวัน ทั้งที่งบประมาณค่าอาหารเด็กตกประมาณวันละ 5,540 บาท และประเด็น ผอ.โรงเรียน ทำตัวเป็นพ่อค้า นำเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมมาขายให้กับนักเรียน ทั้งที่ทางกลุ่มผู้ปกครองและคณะกรรมการโรงเรียนได้คัดค้านมาตลอดไม่ให้ขายน้ำอัดลมแก่เด็กในโรงเรียน

ต่อมา เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 61 ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า ผลการสอบสวนผู้อำนวยการโรงเรียนดำเนินการถูกต้อง ทางชาวบ้านจึงขอเรียกร้องให้ทางผู้บังคับบัญชาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่ากรณีดังกล่าวมีการช่วยเหลือ ผอ. ให้พ้นผิดหรือไม่ หากพบว่ามีการช่วยเหลือ ขอให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อเป็นตัวอย่างแก่สังคมต่อไป และตั้งข้อสังเกตว่า หนังสือฉบับที่ตอบกลับมายังผู้ร้องเรียน มีการลบข้อความบางข้อความออกไป

ขณะที่ นายพล ศรัทโธ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังการตรวจสอบเอกสารโครงการอาหารกลางวันนักเรียน พบว่า ตั้งแต่ปี 2557 - 2561 ไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง ผอ.โรงเรียน เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งสิ้น การจัดทำบัญชีก็คล้ายกันติดต่อกันมา ส่วนใหญ่เป็นอาหารจานเดียว ไม่มีผลไม้ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายการอาหารเป็นอย่างอื่น ส่วนการเอาผิดต้องอยู่ที่เอกสารต่างๆ ว่าทำด้วยเจตนาหรือไม่ มีการถูกบังคับหรือไม่ ที่ตรวจพบความผิดปกติคือในเรื่องของอาหารกลางวันที่มีน้อยเกินไป ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นกระทบต่อสังคมอย่างมาก เรื่องนี้จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ตอนแรกกำหนดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 25 มิ.ย. แต่ตอนนี้ได้มีการเร่งรัดจากคณะกรรมการให้สรุปผลการตรวจสอบเพื่อเสนอคณะกลั่นกรองเพื่อขอตั้งอนุกรรมการไต่สวนหรือหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการเอาผิดตามพยานหลักฐานที่พบในเบื้องต้น 3 ข้อ ประกอบด้วย เอกสารเป็นเท็จ ไม่มีการตรวจรับพัสดุ และไม่มีเอกสารตัวตนแสดงตัวตนว่าเป็นผู้ขาย

ด้านนายจักรินทร์ อภิสมัย รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบข้อร้องเรียน จำนวน 10 เรื่อง พบประเด็นมีมูล จำนวน 2 เรื่อง ประกอบด้วย 1. โครงการอาหารกลางวันเด็กที่ไม่ได้คุณภาพ รวมทั้งโครงการเลี้ยงไก่ไข่และเลี้ยงปลา 2. เรื่องการขยายก่อสร้างเสาไฟฟ้าภายในโรงเรียน ที่โครงการมี 8 ต้น แต่มีการดำเนินการจริงแค่เพียง 6 ต้น ซึ่งทางตนจะเร่งสรุปการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์ที่ 8 มิ.ย. นี้ หากพบว่าผู้อำนวยการโรงเรียนมีความผิดไม่ร้ายแรง ก็จะเสนอต่อผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้พิจารณา หากพบว่ามีความผิดขั้นร้ายแรง ก็จะนำเสนอต่อศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นผู้พิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ขณะที่ นายประทีป ทองด้วง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 2 ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจครูในห้องเรียน ครูบางคนถึงกับร่ำไห้ระบายความอัดอั้นตันใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ทุกสิ่งทุกอย่างทำตาม ผอ. สั่งการ หากไม่ปฏิบัติตามก็จะถูก ผอ. ใช้ถ้อยคำเกรี้ยวกราด ข่มขู่ต่างๆ นานา ทั้งนี้ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ออกมาโพสต์แฉ ผอ.กินเสาไฟ ระบุว่า "โรงเรียนบ้านท่าใหม่อีกแล้ว เรื่องไม่ได้มีแค่ให้เด็กกินขนมจีนคลุกน้ำปลารัวๆ มาสามปีกว่า แต่กินลามไปถึงเสาไฟและอีกหลายอย่าง

เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 โรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทำจัดซื้อจัดจ้างระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียน วงเงิน 380,200 บาท เป็นการติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่าง เดินสาย VCT ติดตั้งตู้ควบคุม และลงเสาไฟคอนกรีตแบบมาตรฐานของการไฟฟ้า เสาสูง 8 เมตร จำนวน 8 เสา งานนี้เป็นงานตกลงราคาที่ ผอ. รับงานเอง จ้างคนในพื้นที่ดำเนินการตรวจดูราคาอุปกรณ์มีความผิดปกติหลายรายการ แต่ที่ชัดเจนโต้งๆ คือ เสาไฟ 8 ต้น ปักจริง 6 ต้น หายไปสอง และฝังไม่ได้ระดับตามแบบ แต่ตรวจรับไปเรียบร้อย

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา เขตพื้นที่การศึกษาได้เข้าไปตรวจสอบที่โรงเรียน กดดันทั้งรักษาการ ผอ. และครูที่เป็นกรรมตรวจรับ ผลักให้รับผิดชอบจนคิดกันว่าจะรวมเงินซื้อคืน โดยที่ครูน้อยเหล่านี้ไม่มีความรู้ด้านงานไฟฟ้าและก่อสร้าง ถูกตั้งให้ไปเป็นกรรมการตรวจรับ และถูกบังคับให้รับงานทั้งที่เสาไฟไม่ครบ ข่มขู่กันว่าใครไม่เซ็นรับจะไม่เซ็นให้ถ้าอยากย้ายไปใกล้บ้าน..."