ก.ล.ต.สั่งบอร์ดไอเฟคประชุมผู้ถือหุ้นทันที

ก.ล.ต.สั่งบอร์ดไอเฟคประชุมผู้ถือหุ้นทันที

ก.ล.ต. สั่งกรรมการ ”ไอเฟค” จัดประชุมผู้ถือหุ้นทันที หลังกรมพัฒนาธุรกิจการค้ายืนยันมีกรรมการเพียง 3 ราย ขู่กรรมการรายใดขัดขวางเจอบทลงโทษแน่นอน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งการให้กรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ไอเฟค) 3 ราย ได้แก่ (1) นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ (2) นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ และ (3) พลตรีบุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ เร่งจัดประชุมผู้ถือหุ้นตามขั้นตอนและวิธีการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2561 ภายหลังกระทรวงพาณิชย์ยืนยันจำนวนกรรมการทั้งหมดประกอบด้วยบุคคลเพียง 3 รายดังกล่าว

นางสิริวิภา สุพรรณธเนศ ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายชื่อกรรมการเพิ่มเติมจำนวน 2 ราย ได้แก่ นายวิภู มหารักขกะ และนายมนูศักดิ์ เดียววาณิชย์ ตามที่ไอเฟคยื่นคำขอ จึงทำให้ปัจจุบันไอเฟคมีรายชื่อกรรมการตามที่ปรากฏในหนังสือรับรองของบริษัทจำนวน 3 ราย ได้แก่นายศุภนันท์ นายฉัตรณรงค์ และพลตรีบุญเลิศ ตามเดิมที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับจดทะเบียนไว้เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2561 รวมถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เคยมีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนกรรมการรายนายธีติพันธ์ เทพผดุงพร ตามที่ไอเฟคร้องขอไปก่อนหน้านี้

ดังนั้นการที่ไอเฟคมีจำนวนกรรมการเพียง 3 ราย จึงเป็นจำนวนที่ต่ำกว่าองค์ประชุมตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ซึ่งกรรมการที่เหลืออยู่มีหน้าที่ต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งกรรมการใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างลงโดยเร็วตามมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนฯ

ก.ล.ต. จึงมีหนังสือถึงกรรมการที่มีรายชื่อปรากฏในหนังสือรับรองของบริษัททุกรายข้างต้นให้เร่งจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งกรรมการใหม่โดยทันที และต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ เนื่องจากข้อมูลตามมติการประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2561 ที่ให้สิทธิผู้ถือหุ้นในการเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นกรรมการ เป็นข้อมูลที่มีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ดังนั้น นายศุภนันท์ในฐานะผู้รับผิดชอบของไอเฟคจึงต้องดำเนินการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับมติการประชุมคณะกรรมการบริษัทดังกล่าวผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งดำเนินการจัดการประชุมผู้ถือหุ้นโดยเร็ว

ทั้งนี้ หากกรรมการไอเฟครายใดมีพฤติกรรมที่เป็นการขัดขวางไม่ให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเกิดขึ้น อาจพิจารณาว่า กรรมการรายดังกล่าวไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 89/7 และเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 281/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่ง ก.ล.ต. จะพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยเคร่งครัดต่อไป