สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งฉุดราคาดิ่งกว่า 1%

สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งฉุดราคาดิ่งกว่า 1%

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพุธ (6มิ.ย.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวร่วงลง 1.2% หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 79 เซนต์ หรือ 1.2%  ปิดตลาดที่ราคา 64.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 5 เซนต์ ปิดตลาดที่ราคา 75.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ อีไอเอ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ระบุก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 587,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล พุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 784,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 955,000 บาร์เรล

นอกจากนี้  รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอินเดีย เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียว่า ซาอุดิอาระเบียกำลังพิจารณาทบทวนนโยบายลดกำลังการผลิตที่มีการดำเนินการในปัจจุบัน 

ขณะที่ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐได้เจรจาในทางลับกับซาอุดิอาระเบีย และสมาชิกบางประเทศในกลุ่มโอเปก เพื่อให้มีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังจากที่ราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวโจมตีนโยบายน้ำมันของโอเปก รวมทั้งราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น