SGP - ซื้อ

SGP - ซื้อ

Margin recovery

ราคาแก๊สที่ปรับตัวขึ้น $90/ton QTD คาดหนุนให้มาร์จิ้นกลับสู่ระดับปกติที่ 8-9% และส่งผลให้กำไร 2Q18 ฟื้นตัวแรงจาก 1Q18 ที่กำไรอ่อนแอเพราะราคาแก๊สลงแรง นอกจากราคาแก๊สที่เพิ่มขึ้นจะหนุนกำไรแล้ว ผลประกอบการยังได้แรงหนุนจากเงินบาทที่อ่อนค่า ซึ่งจะหนุนให้ธุรกิจในต่างประเทศ รวมถึงโรงไฟฟ้าที่พม่ามีกำไรมากขึ้น และปริมาณขายแก๊สในต่างประเทศที่โตแรง โดยเฉพาะในจีนที่เติบโตแรงถึง 30%YoY เราแนะนำ ซื้อ เพราะผลประกอบการที่คาดฟื้นตัวแรง อย่างไรก็ดีประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายเป็น Under review เพื่อรอดูขนาดการฟื้นตัวของกำไร 2Q18

ราคาแก๊สวิ่งทำจุดสูงสุดใน 2Q18 คาดมาร์จิ้นกลับสู่ปกติ

ราคาแก็สวิ่งทำจุดสูงสุดใหม่ของปีที่ $570/ton หลังจากเริ่มฟื้นตัวในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเกือบ $90/ton คาดจะส่งผลบวกต่ออัตรากำไรของ SGP ให้กลับสู่ภาวะปกติ และหนุนให้ผลการดำเนินงานของ SGP กลับมาโตแรงอีกครั้ง ทั้งนี้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในช่วงเดือน เม.ย.- พ.ค. เริ่มฟื้นแล้ว เราคาดอัตรากำไรขั้นต้น 2Q18 จะกลับมาสู่ระดับใกล้เคียง 8-9% (เทียบกับ 1Q18 ที่อัตรากำไรขั้นต้นเหลือเพียง 3% เพราะราคาแก๊สปรับตัวลงกว่า$170/ton) อนึ่ง MS ปรับเพิ่มสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบ โดยปรับปี 2019-2020 ขึ้นจาก เฉลี่ย $65/bbl ว่าจะมีโอกาสได้เห็นระดับสูงสุด ที่ $85-$90/bbl และจาก Figure 1-2 เราพบว่าราคาน้ำมันและราคาแก๊สเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน

บาทเริ่มอ่อน คาดเป็นบวกต่อธุรกิจในต่างประเทศ

จากเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วง 2Q18 จาก 31.20 สู่ 31.90 THB/US$ คาดเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยหนุนกำไรจากธุรกิจในต่างประเทศ เพราะ 1) บริษัทมียอดขายแก๊สจากต่างประเทศกว่า 2 ใน 3 ที่มีการขายอ้างอิงราคา CP Saudi Aramco ซึ่งเป็น US$ และ 2) โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในพม่า คาดจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นเพราะใน 1Q18 มีการหยุดซ่อมบำรุงแต่ใน 2Q18 ไม่มีการหยุดเดินเครื่อง และยังได้ประโยชน์จากการแปลงค่าเงินหลังจากเงินบาทอ่อนค่า

ตลาดต่างประเทศ เป็นปัจจัยหนุนการเติบโต

ถึงแม้ปริมาณขายแก๊สในประเทศใน 1Q18 จะทรงตัว YoY แต่ปริมาณขายในต่างประเทศเติบโตอย่างมีนัยยะ โดยโตถึง 16.7%YoY เป็น 5.5 แสนตัน นำโดยตลาดจีน ซึ่งปริมาณขายเพิ่มขึ้นถึง 31%YoY เป็น 3.3 แสนตัน และมาเลเซียซึ่งโตถึง 15% เป็น 3.6 หมื่นตัน ซึ่งบริษัทยังคงเน้นที่จะบุกตลาดใน 2 ประเทศนี้อย่างต่อเนื่อง โดยการขยายตลาดจากเดิมที่บริษัทมีฐานอยู่ในจีนทางตอนใต้ไปสู่จีนตอนเหนือ ซึ่งประเทศจีนความต้องการแก๊สสูงมากจากมาตรการเลิกใช้ถ่านหิน และสาหรับตลาดมาเลเซีย คลังแก๊ส LPG ที่มาเลเซียขนาด 5 พันตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 3Q18 ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายในมาเลเซีย ให้ดีขึ้นจากปัจจุบันที่ระดับ 3,000 ตัน/ปี เป็น 10,000 ตัน/ปี ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสร้างตลาดในมาเลเซียตะวันตกได้ จากเดิมที่มีฐานตลาดอยู่เพียงมาเลเซียตะวันออก