"รอง ผบช.ทท." อึ้ง! ตำรวจชุดเฉพาะกิจรวบแม่เล้าเด็กวัย 17 หลอกเหยื่อเด็กหญิงอายุ 14 ปี เร่ค้ากามชาวต่างชาติคาโรงแรมพัทยา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว , ตำรวจ 191 , บก.ปคม. , นักจิตวิทยา แถลงข่าวการจับกุมดำเนินคดีความผิดเรื่องค้ามนุษย์ หลังผู้ต้องหานำเด็กผู้หญิง อายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าบริการทางเพศนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ย่านพัทยา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ น.ส.บี อายุ 17 ปี (แม่เล้า) และผู้ซื้อบริการ ชาวอินเดีย 1ราย
จากการสืบสวนทราบว่า น.ส.บี อายุ 17 ปี ได้ชักชวน ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ผ่านทางเพจเฟสบุ๊ก และได้ชักชวนไปเที่ยวที่พัทยา โดยให้พักอาศัยร่วมกับเด็กและผู้ใหญ่อีกหลายคนในโรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้นได้นำตัวไปรับแขกต่างชาติชาวอินเดีย โดยรับเงินมา 5,000 บาท และแบ่งให้ น.ส.เอ เป็นเงิน 4,000 บาท โดย น.ส.บี จะหักเงินเก็บไว้ 1,000 บาท ต่อมา น.ส.เอ ได้หลบหนีกลับไปบ้านที่ จว.อุบลราชธานี ก่อนที่ น.ส.บี จะตามไปที่บ้านและอ้างว่า น.ส.เอ ขโมยเงินและต้องการให้กลับไปทำงานที่พัทยา แต่ครอบครัวไม่ยินยอม และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.บี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลและเข้าช่วยเหลือเหยื่อได้ 4 ราย จากการสัมภาษณ์พบเข้าข่ายกระทำผิดค้ามนุษย์ 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย ไม่เข้าข่าย จึงได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ พม. ดำเนินการดูแล และอีก 1 ราย คือ น.ส.บี ทำหน้าที่เป็นแม่เล้า ตกเป็นผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี ฐานกระทำการค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี ซึ่งเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี,เป็นธุระจัดหาล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี และข้อหาอื่นๆรวม 6 ข้อหา และดำเนินคดีชายสัญชาติอินเดีย ที่ร่วมประเวณีกับ ด.ญ.เอ รวม 3ข้อหา คือ พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือ ผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร,พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
เบื้องต้น ตำรวจ ปคบ.ได้จัดพนักงานสอบสวนหญิงร่วมกับนักจิตเวชทำการสอบปากคำ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่อย่างไรก็ตามแม้ผู้ต้องหาจะให้การปฎิเสธแต่ตำรวจมีพยานหลักฐานในการดำเนินคดีอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่า ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เอาจริงกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะเว็บไซต์สื่อลามกอนาจารต่างๆ ได้มีการสั่งปิดไปแล้วกว่า 700 เว็บและอยู่ระหว่างการขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเว็บไซต์และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป