นอนเรือนจำ! 'สาวใหญ่ชลบุรี' วืดประกันคดีฉ้อโกงล็อตเตอรี่ 29 ล้าน

นอนเรือนจำ! 'สาวใหญ่ชลบุรี' วืดประกันคดีฉ้อโกงล็อตเตอรี่ 29 ล้าน

ตร.บางซื่อ คุมตัวผัดฟ้องฝากขัง "สาวใหญ่ชลบุรี" ลวงขายโควตาล็อตเตอรี่ ผู้เสียหายร่วมลงทุน 3 ครั้ง จ่ายเงินสด 29.4 ล้าน ก่อนเชิดเงินหนี

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.61 ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้ควบคุมตัว นางวรรณสิณี วิโชติวงศ์สิน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ลงวันที่ 29 พ.ย.60 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงหลอกลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลใบละ 70 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มายื่นคำร้องขอผัดฟ้อง และฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-9 มิ.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

โดยคำร้องผัดฟ้องฯ ระบุพฤติการณ์ของผู้ต้องหาสรุปว่า เมื่อต้นเดือน มิ.ย.59 นายภิรมย์ เจริญแพทย์ ผู้ต้องหาอีกคน ได้ชักชวน นายสรศักดิ์ ผู้เสียหายให้มาร่วมลงทุนซื้อฉลากกินแบ่งรัฐบาลในอัตราใบละ 70 บาท โดยอ้างว่า เป็นโควตาของนายทหารยศ พล.ท.คนหนึ่ง เพื่อนำมาขายต่อให้ในราคา 80 บาท ซึ่งนายภิรมย์ และนางวรรณสิณี ผู้ต้องหาคดีนี้จะเป็นผู้นำไปขายให้และผู้ต้องหาอ้างว่า ในทุกๆการลงทุน 700,000 บาทเมื่อครบ 15 วันจะได้ผลกำไรตอบแทนเป็นเงิน 50,000 บาทโดยจะจ่ายผลกำไรทุกวันที่ 5 และ 20 ของทุกเดือน

กระทั่งวันที่ 4 มิ.ย. 59 ผู้เสียหายจึงได้ร่วมกับนายภิรมย์ ลงทุนครั้งแรกเป็นเงิน 1.4 ล้านบาท โดยฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยฯ ของนายภิรมย์ หลังจากนั้นผู้เสียหายได้ตัดสินใจลงทุนอีกในครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 59 และครั้งที่ 3 วันที่ 5 ต.ค.59 รวม 28 ล้านบาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยฯ ของนางวรรณสิณี ผู้ต้องหา แต่เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 60 ซึ่งถึงงวดที่จะต้องโอนเงินผลกำไรตอบแทนในการลงทุน ปรากฏว่านายภิรมย์ และผู้ต้องหาได้บ่ายเบี่ยงการจ่ายค่าตอบแทน โดยบอกว่าจะรวมโอนเงินให้ในงวดวันที่ 20 ม.ค. 60 แต่เมื่อถึงวันดังกล่าวกลับไม่มีการโอนเงิน จากนั้นนายภิรมย์ และผู้ต้องหาก็ปิดโทรศัพท์มือถือไม่สามารถติดต่อได้อีก ซึ่งการกระทำนั้นได้หลอกลวงผู้เสียหายโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ได้เงินไปเป็นจำนวน 29,400,000 บาท โดยเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันจับกุมตัวนางวรรณสิณี ผู้ต้องหานี้ ได้ตามหมายจับของศาล ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหาได้ 6 วัน ต่อมาญาติของผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 200,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาในชั้นนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องร้ายแรง มูลค่าความเสียหายสูง เกรงว่าหากปล่อยตัวผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงให้ยกคำร้อง ดังนั้นเจ้าหน้าที่ จึงได้ควบคุมตัว นางวรรณสิณี ไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ระหว่างผัดฟ้องฝากขังนี้

ด้านนายสรศักดิ์ ผู้เสียหายที่ติดตามมาดูความคืบหน้าคดี เปิดเผยว่า เมื่อเดือน ธ.ค.60 เคยคุยไกล่เกลี่ยซึ่งนางวรรณสิณี จะชดใช้ค่าเสียหายให้ เป็นบ้าน 1 หลัง มูลค่า 5 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน มูลค่า 2 ล้านบาท และเช็คเงินสด 5 ล้านบาท พร้อมผ่อนจ่ายที่เหลืออีกเดือนละ 3.5 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าหลังจากได้ทรัพย์สินและเช็คเงินสดมา 12ล้านบาท นางวรรณสิณี ได้หายตัวไปติดต่อไม่ได้แม้แต่เงินผ่อนจ่ายก็ไม่จ่ายตามที่ตกลงไว้ และจากการตรวจสอบทราบว่าโควตานี้ยังมีผู้เสียหายรายอื่นด้วย ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกันเพื่อหาข้อมูลของนางวรรณสิณี กระทั่งได้วางแผนติดต่อผ่านแอพฯไลน์ว่าต้องการซื้อโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 7 ล้านบาท ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในที่สุด ส่วนนายภิรมย์นั้นได้มอบตัวเพื่อสู้คดีไปก่อนหน้านี้โดยอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องซ้ำยังตกเป็นเหยื่ออีกด้วย