ไทย-เมียนมาประชุมทวิภาคี จับมือแก้ปัญหายาเสพติดครบวงจร ก.ค.-ก.ย.นี้ เพิ่มจุดสกัดในเส้นทางลักลอบค้ายา พร้อมเปิดปฏิบัติการกวาดล้างแหล่งผลิตตามแนวชายแดน
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.61 นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงการประชุมทวิภาคีไทย - เมียนมา เรื่อง ความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 20 ว่า การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติด ความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติด และการบังคับใช้กฎหมายยาเสพติด การควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ การฝึกอบรม การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด การพัฒนาทางเลือก รวมทั้งสรุปการหารือแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน โดยมี พลตำรวจตรี อ่อง วิน อู ผู้บัญชาการตำรวจเมียนมา และเลขานุการคณะกรรมการกลางเพื่อควบคุมยาเสพติด (Central Committee for Drug Abuse Control : CCDAC) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเมียนมา
นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า ไทยมีนโยบายให้ความสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดกับเมียนมา โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายตามแนวชายแดนไทย - เมียนมา และสนับสนุนผลักดันความร่วมมือดังกล่าวให้เกิดผลจริงในทางปฏิบัติ และเห็นพ้องร่วมกันในการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย - เมียนมา ซึ่งเป็นแผนที่มีความครอบคลุมการทำงานทุกมิติและรอบด้าน เน้นการยกระดับความร่วมมือในมาตรการต่างๆ ไม่เฉพาะด้านการปราบปราม แต่ยังรวมถึงการบำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด การป้องกันยาเสพติด และการพัฒนาทางเลือก
เลขาธิการป.ป.ส. เปิดเผยด้วยว่า ไทย-เมียนมาให้ความสำคัญกับการควบคุมเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต โดยเห็นชอบที่จะร่วมกันสืบสวนปราบปรามสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่ลักลอบนำเข้าไปยังแหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำให้เพิ่มมากขึ้น โดยให้มีการหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันอย่างเป็นประจำ การเฝ้าระวังและร่วมมือการสืบสวนขยายผล โดยให้มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ระหว่างกันได้โดยตรง เพื่อสามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นชอบให้มีการประชุมว่าด้วยการควบคุมเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นระหว่างประเทศผู้ผลิตและประเทศที่ได้รับผลกระทบที่สำคัญ อาทิ ไทย เมียนมา ลาว จีน และอินเดีย เพื่อวางแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการดำเนินการควบคุมร่วมกันที่มีประสิทธิภาพต่อไป
“สำหรับแผนงานเร่งด่วนที่จะดำเนินการในเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2561 คือเพิ่มการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในเส้นทางลักลอบค้ายาเสพติดที่สำคัญ การควบคุมและเฝ้าระวังเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น การสืบสวนปราบปรามกลุ่มผู้ผลิตและค้ายาเสพติด การเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย - เมียนมา การประสานด้านการข่าว และการสืบสวนจับกุมผู้หลบหนีหมายจับข้ามประเทศ”นายศิรินทร์ยาระบุ