'ศรีสุวรรณ' ค้านซื้อดาวเทียมจารกรรม

'ศรีสุวรรณ' ค้านซื้อดาวเทียมจารกรรม

"ศรีสุวรรณ" ชี้ "กองทัพ" เตรียมทิ้งทวน ซื้อดาวเทียมจารกรรม ซัดอันตราย-ขัดกม.-ละเมิดสิทธิ สวนทางศก.ประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง "ขอคัดค้านการเตรียมการจัดซื้อดาวเทียมจารกรรมมูลค่า 91,200 ล้านบาท"       

โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่สภากลาโหม ได้พิจารณาแนวความคิดด้านกิจการอวกาศ ของกระทรวงกลาโหม เพื่อจัดทำร่างยุทธศาสตร์กิจการอวกาศเพื่อการป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2561-2570 เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยการผลักดันของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป. : DTi) เพื่อนำไปสู่การจัดซื้อจัดหา "ดาวเทียมไธอา : THEIA 112 ดวง มูลค่า 2,850 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ หรือ 91,200 ล้านบาทไทย (ไม่รวมค่าจัดส่งดาวเทียมขึ้นฟ้า) จากบริษัท THEIA Group โดยมีอดีตนักการเมืองในประเทศไทยเป็นตัวแทนนายหน้า ซึ่งอ้างว่ามีการร่วมทำ Thailand Satellites Data Information Processing Center กับสหรัฐอเมริกา โดยมีประเทศซาอุดิอาระเบีย และคาซัคสถาน ตกหลุมพรางของสหรัฐดำเนินการไปก่อนแล้วนั้น

ทั้งนี้ดาวเทียมดังกล่าว แท้ที่จริงแล้วอาจเรียกได้ว่าเป็น "ดาวเทียมจารกรรม" ที่มีศักยภาพในการตรวจจับและเก็บภาพทุกสรรพสิ่งบนพื้นผิวโลกและบนพื้นผิวประเทศไทยที่ความละเอียด 0.5 เมตรต่อครั้งต่อวินาทีตลอดเวลา 24 ชั่วโมง (86,400 ภาพทุก ๆ 24 ชม.) ดังนั้นไม่ว่าคนไทยทั้ง 66 ล้านคนจะทำอะไร แม้แต่กดเบอร์โทรศัพท์ดาวเทียมดังกล่าวก็สามารถตรวจจับและบันทึกได้ว่าโทรเบอร์อะไร โทรหาใคร ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อการละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการดำเนินชีวิต และความเป็นส่วนตัวของบุคคล อันขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 4 มาตรา 25 มาตรา 32 และมาตรา 36 ที่ระบุไว้ชัดเขนว่า "บุคคลย่อมมีสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว" และ "การกระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อให้ล่วงรู้หรือได้มาซึ่งข้อมูลซึ่งข้อมูลที่บุคคลสื่อสารถึงกันจะกระทำมิได้"

 

นอกจากนี้การดำเนินการจัดซื้อจัดหาดาวเทียมดังกล่าวยังอาจขัดต่อมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ 2560 อีกด้วย เนื่องจากประธานกรรมการสทป.และคณะได้ไปลงนามในหนังสือแสดงการรับรู้ หรือ LOA (Letter of Acknowledge) แล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2560 และต่อมาได้มีการลงนามในหนังสือแสดงความจำนง หรือ LOI (Letter of Intent) เมื่อเดือนมีนาคม 2561 และล่าสุดได้ลงนามในหนังสือยืนยัน หรือ LOC (Letter of Confirm) เมื่อปลายเมษายน 2561 ที่ผ่านมา โดยการรับรู้ของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯและประธานคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่เดินทางไปเยือนสหรัฐมาเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งๆที่สหรัฐเคยต่อต้านคสช. มาโดยตลอด แต่เพื่อผลประโยชน์ของชาติในเรื่องนี้ ทำให้นโยบายของสหรัฐเปลี่ยนไปทันทีเมื่อไทยประสงค์จะซื้อดาวเทียมจารกรรมนี้มาจากสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตามการดำเนินการของรัฐบาล นอกจากจะขัดต่อกฎหมายแล้ว ยังไม่คำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ ประชาชนยากจน มีหนี้เฉลี่ยท่วมหัวเพิ่มขึ้น 7.1% การจ้างงานลดลง 0.2% ตามที่สภาพัฒน์ฯรายงาน ส่วนหนี้ของรัฐบาลมีมากกว่า 5.1 ล้านล้านบาท ยังพยายามที่จะก่อหนี้เพิ่มขึ้นจากการจัดซื้อจัดหาดาวเทียมจรกรรมดังกล่าวในห้วงสุดท้ายของการมีอำนาจ แม้ก่อนหน้านี้จะมีการจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ทั้ง 3 เหล่าทัพไปแล้วมากมาย โดยเฉพาะเรือดำน้ำมูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาทยังไม่พออีกหรือ ซึ่งกรณีดังกล่าวสมาคมฯจักต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไปในเร็วๆนี้