ดัดจัดสรีระ ละลายความเครียด

คลายเมื่อยแบบรวบรัด ดัดจัดสรีระให้ถูกจุด นวัตกรรมที่คิดโดยแพทย์ บริหารแบบกิจการเพื่อสังคม

....................

“ ถ้าทำกายภาพบำบัด ปวดไหล่ ก็คลายเฉพาะไหล่ แต่คนที่เป็นออฟฟิคซินโดรม เป็นทั้งตัว เราก็ต้องแก้ไขทั้งตัว ” พูลชัย จิตอนันตวิทยา อายุรแพทย์โรคหัวใจ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ผู้คิดค้นนวัตกรรมดัดจัดสรีระ (Human maintainance Service) กล่าว เมื่อพบว่า คนส่วนใหญ่มีความเครียดสะสมระยะยาว จึงก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง ทั้งความดันโลหิตสูง เบาหวาน ซึมเศร้า ฯลฯ ซึ่งส่งผลต่อระบบสมอง 

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว คุณหมอจึงสังเคราะห์ความรู้ทางการแพทย์ คิดนวัตกรรมดัดจัดสรีระ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อข้อต่อ ร่วมกับการกดจุด Trigger Point(จุดกดเจ็บ) เพื่อไปย้อนคำสั่งจากสมองให้ฟื้นคืนสมดุลระบบประสาทอัตโนมัติิ ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกโปร่ง โล่งสบาย 

“เครื่องจักร ยังต้องบำรุงรักษา แล้วร่างกายของพวกเรา ก็ควรต้องดูแลบำรุงรักษาเช่นกัน” คุณหมอพูลชัย กล่าว

ปัจจุบันคุณหมอพูลชัยมีคลีนิคส่วนตัวด้านโรคหัวใจ เปิดบริการแค่สองวัน คือ วันพฤหัสและเสาร์ ส่วนงานหลักเป็นประธานฝ่ายการแพทย์ วิสาหกิจสุขภาพชุมชน หรือ Social Health Enterprise (SHE) กิจการเพื่อสังคมด้านสุขภาพ โดย SHE เป็นองค์กรแรกๆ ที่ทำเรื่องการสร้างคุณค่าให้คนที่ก้าวพลาด โดยมีคลีนิคทางด่วนเพื่อชุมชน รองรับให้พนักงานของ SHE ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สำนักงานบ้านกึ่งวิถี ตรงแยกสามเหลี่ยมดินแดง ให้บริการดัดจัดสรีระ รวมทั้งให้บริการนอกสถานที่สำหรับพนักงานบริษัทหรือหน่วยงานที่มีปัญหาออฟฟิคซินโดรมและความเครียด

“ความตึงเครียดจะทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติเสียสมดุล ผมจึงใช้นวัตกรรมเรื่องดัดจัดสรีระแก้ปัญหาเรืื่องนี้ ก่อนหน้านี้ผมใช้เวลาบำบัดนานสองชั่วโมง ล่าสุดปรับเหลือน้อยที่สุดแค่สองนาที ในกรณีที่ต้องการบำบัดแบบเร่งรัด ถ้าจะให้ได้ผลดีต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 10 นาทีจะให้บริการบนเก้าอี้ ถ้าให้บริการ 30-60 นาทีจะปรับเป็นท่านอน วิธีการเหล่านี้สามารถละลายความเครียดสะสมให้หายได้นาน”

-1-

คุณหมอพูลชัย ตั้งใจให้นวัตกรรมดัดจัดสรีระที่คิดขึ้น เป็นธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อเป็นอาชีพสำหรับคนชายขอบในสังคม โดยเริ่มจากฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิงในเรืือนจำ เยาวชนบนดอย นักเรียนด้อยโอกาสทางสังคม และไปไกลถึงคนชายขอบในประเทศแถบเอเชีย

“โรคเหล่านี้เกิดจากระบบอัตโนมัติในร่างกายแข่งกับเวลา เราเรียกว่าเครียดตลอดเวลา เครียดต่อเนื่องจากที่ทำงานถึงที่บ้าน จากที่บ้านไปที่ทำงาน ทำให้เกิดสุขภาวะไม่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อป้องกันโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ผมพบว่า เราสามารถใช้วิธีการยืดเหยียดร่วมกับการกดจุด แล้วทำให้ร่างกายเปลี่ยนสถานะจากร้อนเป็นเย็น หายจากอาการปวดเมื่อยได้”      

นวัตกรรมดัดจัดสรีระ คุณหมอทำออกมาเป็นโมเดล SE (Social Enterprise) ให้ความสำคัญกับการทำเพื่อสังคมเป็นเรื่องหลัก และเห็นว่า สามารถขยายผลและสร้างสิ่งดีๆ ให้ผู้รับบริการได้ ส่วนผู้ให้บริการ ก็ต้องฝึกฝนจนกว่าจะได้มาตรฐาน โดยสามปีที่แล้ว คุณหมอเริ่มจากเข้าไปฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ จากนั้นคนเหล่านั้นจะเลือกมาทำงานที่ SHE หรือไม่ก็ได้

“ในเรือนจำก็มีการสอนอาชีพ อาทิ สอนทำเบเกอรี่ ทำกาแฟ ทำเฟอร์นิเจอร์ แต่เมื่อพ้นโทษแล้ว คนเหล่านี้ทำธุรกิจสู้ร้านทั่วไปไม่ได้ ไม่สามารถเป็นผู้ประกอบการ หรือรวมกลุ่มกันเป็นผู้ประกอบการได้ อย่า่งการนวดแพทย์แผนไทย ใครๆ ก็นวดสูตรวัดโพธิ์ นวดแบบราชสำนัก เมื่อโปรดักส์ไม่แตกต่าง สายป่านสั้นกว่า ก็อยู่ไม่ได้ แต่งานที่ผมทำดัดจัดสรีระเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกโล่งสบายทั้งตัว ไม่มีใครทำ ”

-2-่

หากถามว่า เวลาแค่ 5 นาที หรือ 2 นาที จะดัดจัดสรีระให้คนเป็นออฟฟิคซินโดรมดีขึ้นได้ยังไง

คุณหมอพูลชัย เล่าว่า เมื่อคนเราใช้คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนเยอะๆ  ทั้งบ่า หลังท่อนบนและล่าง สะโพกล่างบน ขา น่อง แขน แต่ละส่วนตึงทั้งตัว จึงได้ค้นคว้าจนสามารถยืดกล้ามเนื้อออกไปตึงที่สุด แล้วกดกระตุ้นบางจุด สมองที่ควบคุมพื้นที่ตรงนั้นจะส่งคำสั่งใหม่ให้กล้ามเนื้อยืดออก เพื่อลบคำสั่งเดิม โดยศึกษาจากอิริยาบทในการทำงานของมนุษย์ พวกเขาใช้กล้ามเนื้อมัดไหน แต่ละมัดหดตัวคลายตัวอย่างไร ถ้าจะยืดกล้ามเนื้อมัดนั้น ต้องกดจุดตรงไหนที่เป็นจุดเปลี่ยนระบบประสาท

"เมื่อทำแล้ว ก็เกิดความสุขขึ้นในสมอง เพราะความเจ็บปวดจากการดัดจัดสรีระ จะทำให้สารเอ็นโดฟินหลั่งเหมือนเราไปวิ่งสิบกิโล คนที่ออกกำลังกายเยอะๆ ก็มีีความเครียดได้ ร่างกายตึง มีปัญหาเหมือนกัน”

นอกจากนี้เขายังอธิบายว่า เวลาคนเราเดินเยอะๆ ก็จะเป็นตะคริว ปวดน่องมาก จึงต้องดึงและยืดออก และพยายามที่จะไม่เกร็ง สักพักก็คลาย 

"ตะคริวจิ๋วเกิดขึ้นที่กล้ามเนื้อบั้นเอวและสะบัก จะรู้สึกว่าปวดเมื่อยและลามไปที่อื่นๆ ร่างกายเราเกิดตะคริวจิ๋วเป็นร้อยๆ จุด เราก็ใช้ท่ายืดเหยียดที่เหมาะสม กระตุ้นจนทำให้สมองเปลี่ยนระบบประสาท เราทำกับกล้ามเนื้อทุกมัด แต่เราทำกระบวนให้สั้นและกระชับ โดยกดดัดกล้ามเนื้อเฉพาะจุดใช้เวลาแค่ห้านาที

อย่างเมื่อก่อนคนปวดศรีษะ เราต้องนวดขมับ กลางศรีษะ ก้านคอด้านหลัง เราพบว่า สามารถกดจุดเดียวเหนือคอ แต่ต้องบิดหัวไหล่ด้วย ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น ถ้าเราไม่ทำบางท่าก็ได้ เราก็คัดท่าที่สำคัญที่สุดมาร้อยเรียง เราพบว่ายืดหยุ่นที่สุดคือ สิบนาที"

คุณหมอบอกว่า คนป่วยเพราะสมาร์ทโฟนในประเทศไทย 30-40 ล้านคน และเป็นออฟฟิคซินโดรม ซึ่งทำงานแบบเดิมๆ และป่วยซ้ำๆ 

"ถ้าอย่างนั้น การบำบัดแบบนี้ ทำไมเราไม่ทำให้พวกเขาเหลือค่าบริการแค่แปดสิบบาทต่อครั้ง ใช้เวลาสิบนาที องค์กรอาจช่วยจ่ายให้พนักงาน หรือให้สิทธิประกันสังคม ซึ่งมีกำหนดในบางมาตรา แต่ข้อกำหนดมีไว้ว่า ถ้าจะให้สิทธิผู้ประกัน ระบบที่เราทำ ต้องทำให้คนเข้าถึงบริการได้เยอะ แต่ตอนนี้เรื่องนี้ยังเล็กอยู่

เรามีผู้ต้องขังหญิงกว่าสี่หมื่นคน ฝึกด้านนี้ได้ ผมเสนอเรื่องนี้มาตลอด ผมยังเสนอว่า อย่าเสียเวลาฝึกอาชีพแบบเดิมๆ มันแค่ได้ทำ คนเหล่านั้นออกไปก็สู้องค์กรธุรกิจไม่ได้ ที่ผ่านมาผมฝึกอบรมให้ผู้ต้องขังหญิงเจ็ดร้อยแปดร้อยคน มีคนมาทำงานในองค์กร SHE สิบกว่าคน หลายร้อยคนกลับไปทำงานที่บ้านเกิด เอาความรู้ที่ผมสอนไปใช้กับคนในครอบครัวและคนข้างบ้าน และพบว่ามีคนยินดีจ่ายค่าบริการกับการดัดจัดสรีระ่

เมื่อผู้ต้องโทษออกมาทำงานแบบนี้ จากที่รู้สึกว่า ตัวเองไม่มีคุณค่าและศักดิ์ศรี หากไปทำงานขายของก็ต้องยกมือไหว้คนอื่น แต่พอมาทำอาชีพนี้ คนกลับยกมือไหว้ขอบคุณเพราะทำให้หายปวดเมื่อย ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า"

-3-

เมื่อเป็นนวัตกรรม ก็ต้องคิดให้ก้าวไกล คุณหมอพูลชัยวางแนวทางไว้ว่า  กระบวนการดัดจัดสรีระ ต้องช่วยแก้ปัญหาสังคมได้ด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่งคนบนดอย

 “เราไม่ได้สอนเฉพาะผู้ต้องขังหญิง ยังมีลูกหลานคนบนดอยที่อยากมีอาชีพ เรานำพวกเขามาฝึกอาชีพ เมื่อมีอาชีพก็สามารถส่งเงินกลับบ้าน ทำให้พ่อแม่มีโอกาสหลุดจากวงจรหนี้สินทางการเกษตรได้ ตอนนั้นผมเอาเด็กอายุ 17-18 ซื่อๆ ใสๆ มาอยู่กับผู้เคยต้องขังอายุ 30 คนพวกนี้เกิดความรู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ ก็คอยช่วยเหลือเด็กๆ ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนทะเลาะกัน ทำให้พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในบ้านกึ่งวิถี "

หากถามว่า ธุรกิจเพื่อสังคมขององค์กร SHE มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ไหม 

คุณหมอ บอกว่า ยังไม่เคยมีกำไร จึงต้องใช้เงินจากคลีนิคที่เขาทำงานมาประคับประคององค์กร รวมถึงหางบจากองค์กรต่างๆ มาสนับสนุนการทำกิจกรรม 

“ผมคิดว่ากำไรที่เกิดขึ้นคือ คนไม่กลับไปกระทำผิด ไม่ค้ายาเสพติด เพราะเป้าหมายการทำงานไม่ใช่เรื่องเงิน แต่ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า คนธรรมดาที่อยากเดินตามที่พ่อสอน (ในหลวง รัชกาลที่ 9) จากครอบครัวที่ไม่มีทางเลือกจำต้องปลูกข้าวโพดอยู่ในวงจรหนี้สิน เมื่อลูกหลานพวกเขามีอาชีพ มีรายได้ ก็จะค่อยๆ กลับมาฟื้นป่า และตอนนี้ทีมงาน SHE เริ่มไปสอนสามเณรนวดพระผู้ใหญ่ห้าจังหวัดภาคเหนือ และให้สามเณรไปสอนชาวบ้าน”

-4-

นวัตกรรมดัดจัดสรีระ คุณหมอพูลชัย วางเป้าหมายไว้ว่า ต้องไปไกลถึงระดับโลก และไม่ใช่ความฝันลมๆ แล้งๆ

"ออฟฟิคซินโดรมเป็นกันทั้งโลก เมื่อสองปีที่แล้ว บริษัทประกันในต่างประเทศก็มาหาเรา พวกเขาอยากให้เราพัฒนาเธอราปิส เพื่อใช้ในบริษัทคู่สัญญาประกันสุขภาพ เพราะนวัตกรรมแบบนี้ประเทศอื่นไม่มี ขณะที่ในประเทศไทยมองว่า เรื่องแบบนี้ต้องจ่ายค่าบริการ ทั้งๆ ที่ในหลายประเทศ การบริการแบบนี้อยู่ในระบบประกันสุขภาพ เน้นการป้องกันมากกว่าป่วยแล้วค่อยรักษา           

 ถ้าถึงตอนนั้น ผมจะฝึกให้เด็กอินเดีย เด็กปากีสถาน เพราะในเอเชียแปซิฟิค มีเยาวชนที่ไม่ได้รับการจ้างงานเยอะมาก ตอนนี้ผมคุยมูฮัมหมัด ยูนูส ที่ทำเรื่องกรามีนแบงค์ เขามองว่าพลังเยาวชนยิ่งใหญ่มากจะตั้งมูลนิธิยูนูสในประเทศไทย และขอให้ผมเป็นประธานมูลนิธิฯ เขาเชื่อว่า นวัตกรรมแบบนี้จะช่วยให้เยาวชนมีอาชีพที่มั่นคง และเราจะเป็นเครือข่ายกัน ผมเพิ่งไปพรีเซ็นต์ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเรื่องนี้เกิดในเมืองไทยยาก ต้องไปโตในต่างประเทศก่อน”       

ส่วนเป้าหมายในอนาคต คุณหมออยากให้นวัตกรรมดัดจัดสรีระสองนาที บรรจุไว้ในหลักสูตรภาคบังคับระดับมัธยม

“ผมอยากให้คนนำนวัตกรรมนี้ไปใช้ทั่วโลก โดยนำไปใช้ดูแลครอบครัว จะทำให้การเจ็บป่วยจากโรคความดัน เบาหวานน้อยลง เพื่อนๆ แพทย์และพยาบาลจะได้ทำงานน้อยลง“ 

หากใครได้ลองใช้บริการดัดจัดสรีระ ก็จะรู้ว่า นวัตกรรมนี้ ทำให้ร่างกายโปร่งโล่งสบายได้จริง

"ผมพัฒนาจนมั่นใจว่า ใช้ได้ผลดี และไม่ต้องใช้เวลานานเหมือนการนวดทั่วไป คนหลายชาติที่มาใช้บริการ ส่วนใหญ่พอใจ มีความสุข ไม่ต่างจากคนไทย”

.............

บริการดัดจัดสรีระ ขององค์กร SHE

-หากรับบริการจ้างเหมาตลอดวันถึงที่ทำงาน จะประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางของพนักงาน อัตราเหมาจ่าย 2,500 บาทต่อวันต่อ 1 เธอราปิส พนักงาน SHE จะทำงาน 8 ชั่วโมงพัก 1 ชั่วโมง ให้บริการได้ทั้งคอร์สแบบ 10 นาทีให้บริการได้ 35-40 คนเฉลี่ยค่าบริการ 62-70 บาท/ราย สำหรับคอร์ส 30 นาที ให้บริการได้ 14 คน เฉลี่ย 180 บาท/ราย ต่างจังหวัดมีค่าเดินทาง 

-หากต้องการรับบริการที่่คลินิกทางด่วนเพื่อชุมชน เขตดินแดง ต้องนัดหมายล่วงหน้า โทร  080 426 1698

ติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ [email protected] ,โทร  082 796 2527 และเฟซบุ๊ค Poonchai Chitanuntavitaya