'ศรีวราห์' ส่งทีมตรวจสอบ คลังระเบิด บจก.อัครพัฒน์ไวนิ่ง

'ศรีวราห์' ส่งทีมตรวจสอบ คลังระเบิด บจก.อัครพัฒน์ไวนิ่ง

"ศรีวราห์" ส่งทีมตรวจสอบ คลังระเบิด บจก.อัครพัฒน์ไวนิ่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่ยังไม่กู้ระเบิด 3 ลูกที่เหลือ รอสารแอมโมเนียมไนเตรทเสื่อมสภาพ

จากกรณีเกิดเหตุระเบิดในเหมืองแร่บริษัท อัครพัฒน์ไวนิ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้นายสานิตย์ ชูแก้ว อายุ 43 ปีผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดของเหมืองแร่เสียชีวิต และนางกี่ ชาวเมียนมาร์ อายุ 43 ปี ผู้ช่วยได้รับบาดเจ็บ ขณะที่กำลังฝังระเบิดเพื่อเตรียมระเบิดหินนำแท่นขุดเจาะลงหลุมแร่ และยังเหลือระเบิดอีกประมาณ 3 ลูกที่ฝังอยู่ในเหมือง เบื้องต้นทางชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดีตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีเข้าตรวจสอบ และเตรียมเก็บกู้แต่ไม่สามารถเก็บกู้ได้เพราะไม่ทราบพิกัดของระเบิดที่ชัดเจนเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงแนะนำให้นำเครื่องขุดเจาะแร่และรุแบ็คโฮออกทั้งหมดในวันนี้เหตุเกิดเมื่อ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

ต่อมาเวลา 10.00 น. วันนี้ (31 พ.ค.61 ) หลังจากที่เอารถแบ็คโฮออกจากหลุมเหมืองแร่เกือบทั้งทั้งหมด แต่แท่นเจาะและรถแบ็คโฮ 2 คันอยู่ใกล้กับหลุมระเบิด ทาง ร.ต.อ.ภานุมาศ พัฒนราช หัวหน้าหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือชุดอีโอดี และนายภักดี ปานหงษ์ หัวหน้ากลุ่มอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมือง สำนักงานอุตสาหกรรม จ.สุราษฎร์ธานี ได้แนะนำเจ้าของกิจการเหมืองแร่ไม่ต้องเคลื่อนแท่นขุดเจาะออก

เพราะไม่มั่นใจว่าจะเกิดระเบิดขึ้นหรือไม่หากเคลื่อนย้าย กลัวจะไม่ปลอดภัยหากมีการติดเครื่องยนต์แบ็คโฮอาจจะเกิดประกายไฟอาจเกิดระเบิดขึ้นได้ โดยให้เหตุผลว่าวันนี้ควรชะลอการเก็บกู้หรือเคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะออกปล่อยให้แอมโมเนียมไนเตร ซึ่งเป็นสารตั้งต้นจุดระเบิดเสื่อมสภาพจะลดการระเบิดได้ คาดว่าระเบิดจมอยู่ในน้ำที่มีความลึก 6 เมตรวัดจากแท่นขุดเจาะและตลอดทั้งวันนี้ห้ามบุคคลภายนอกเข้าในพื้นที่ดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง

ต่อมาเวลา 11.30 น.พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร.ได้ส่ง พ.ต.ท.มนต์ชัยบุญเลิศ สารวัตรกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบการกระทำผิดเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.5 บก.ปทส.) นำทีมงาน 10 คนลงพื้นที่ตรวจสอบวัตถุระเบิดที่ใช้ในกิจการเหมืองแร่ในคลังเก็บ ที่แยกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน 3 หลัง

ประกอบด้วย 1.ดินระเบิด 2.แก๊ประเบิด หรือเชื้อปะทุไฟฟ้าอีมัลชั่น และ3 แอมโมเนียไนเตรททั้ง 3 หลังไม่พบสิ่งผิดปกติ ทุกอย่างปฏิบัติถูกต้องตามใบขออนุญาต โดยทางนายอดุลย์ อัครนิฐ เจ้าของกิจการเหมืองแร่ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีขณะเดียวกันทางหน่วยป้องกันรักษาป่า สฎ 2 (ห้วยมุด)นำทีมงานลงพื้นที่สภาพพื้นที่ว่าถูกต้องตามที่ได้ขออนุญาตหรือไม่ ซึ่งตลอดทั้งวันจากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกันทางนายบรรเจิด สาริพัฒน์ นายอำเภอบ้านนาสาร ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองลงตรวจสอบพื้นที่ตลอดทั้งวัน และในเวลา 10.00 น.วันพรุ่งนี้จะร่วมเข้าตรวจสอบพื้นที่พร้อมกับชุดอีโอดี.อีกครั้ง เพื่อประมวงผลร่วมกันว่าสารแอมโมเนียมไนเตรทเสื่อมสภาพมากน้อยแค่ไหน เคลื่อนย้ายแท่นเจาะและรถแบ็คโฮที่จอดอยู่ได้หรือไม่ เพราะวัตถุระเบิดไม่สามารถที่จะกู้ได้ ต้องทำลายอย่างเดียวจึงจะปลอดภัยที่สุด