คสช.เมิน 'แอมเนสตี้' จี้ยุติคดีอยากเลือกตั้ง

คสช.เมิน 'แอมเนสตี้' จี้ยุติคดีอยากเลือกตั้ง

​“คสช.” ปิดทางข้อเสนอ “แอมเนสตี้” จี้ ยุติคดีคนอยากเลือกตั้ง ระบุเป็นข้อเรียกร้องเกินกรอบกฎหมาย ทำไม่ได้

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผบ.มทบ.11 ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีสำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน ชวนสมาชิกทั่วโลก จี้ไทยยุติดำเนินคดี 62 กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพยายามอธิบายตามข้อเท็จจริงให้สังคมเข้าใจหลักกฎหมาย และหลักการปฏิบัติ ทั้งนี้ยืนยันว่าคสช. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตลอดจนฝ่ายกฎหมาย ดำเนินตามกรอบกฎหมาย และอำนาจหน้าที่ ไม่ได้ละเมิดสิทธิ์ใคร หรือเลือกปฏิบัติ และไปกลั่นแกล้งใคร

เมื่อถามว่า คสช.จะทำความเข้าใจกับองค์กรดังกล่าว อย่างไร พล.ต,ปิยพงศ์ กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร เพราะความต้องการยังไม่ตอบสนอง เราต้องอธิบายตามความเป็นจริง ตนไม่รู้สึกหนักใจอะไร สิ่งใดเป็นข้อเรียกร้อง และอยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ ถ้าอะไรที่ทำได้ เช่น ปัญหาปากท้องก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ แต่ข้อเรียกร้องใดขัดกฎหมาย คสช.จะอธิบายให้เข้าใจว่าทำไม่ได้

เมื่อถามอีกว่าข้อเรียกร้องของแอมเนสตี้ฯ เกินขอบเขตคสช. หรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า หลักการทำงาน อะไรอยู่ในกรอบกฎหมาย อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถทำได้ ทุกคนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่อะไรที่เกินอำนาจหน้าที่ เกินกรอบกฎหมาย ตนขอชี้แจงว่าไม่สามารถทำได้

ผบ.มทบ.11 กล่าวต่อว่า การดำเนินการกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนั้น ที่ผ่านมาเราอธิบายทำความเข้าใจกับคนทั้งประเทศว่าบ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปได้ ดังนั้นขอเวลาที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งตามที่ทุกคนปรารถนา ในต้นปี 2562 เมื่อเลือกตั้งแล้วจะมีรัฐบาลใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งทางรัฐบาลคสช.จะส่งผ่านอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินให้รัฐบาลใหม่ ส่วนคสช.จะหมดอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ปี2560 อย่างไรก็ตามแต่ยังมีคนไทยจำนวนไม่มากอยากให้เลือกตั้งโดยเร็ว ทางคสช.ขอความร่วมมือว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ควรอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย หากทำผิดกฎหมาย คสช. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกรอบกฎหมาย