ย้ำนโยบายแก้รธน. หลังหน.พรรคประกาศ 'ฉีกรัฐธรรมนูญ' แค่ภาษาพูด

นายชำนาญ จันทร์เรือง ว่าที่รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ต่อประเด็นที่แกนนำรัฐบาลของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จับตาการประกาศนโยบายและคำอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ ว่าจะมีปัญหาใดต่อการจดแจ้งเป็นพรรคการเมืองหรือไม่ ว่า ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เพราะตามสิทธิของการจัดตั้งพรรคการเมืองโดยผู้ร่วมอุดมการณ์ยังสามารถทำได้ และไม่มีกฎหมายข้อใดระบุว่า คสช. จะมีอำนาจสั่งหรือดำเนินการอย่างใดเพื่อไม่ให้กลุ่มการเมืองไม่สามารถจดแจ้งเป็นพรรคการเมืองได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมา คสช. ต้องการให้การเมืองหลังจากนี้ คือการเมืองรูปแบบใหม่ มีพรรคการเมืองที่หลากหลาย ตนจึงไม่กังวลว่าจะมีประเด็นที่เป็นข้อขัดข้องทางกฎหมายที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้รับสิทธิ์จดแจ้งเป็นพรรคการเมืองโดยสมบูรณ์

นายชำนาญ ยังกล่าวย้่ำถึงคำพูดของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรค ต่อประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยคำที่ว่าฉีกทั้งฉบับว่า เป็นเพียงภาษาพูดเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติของพรรคยืนยันว่าจะทำตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญกำหนด ทั้งนี้ในแนวทางของพรรคที่จะทำต่อเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ การแก้ไขทั้งฉบับ ผ่านกระบวนการของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วยุคแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2534 และทำให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540

“เรายืนยันว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญตามเงื่อนไข แม้บทบัญญัติในหมวดว่าด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ จะทำได้ยาก แต่ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะพรรคมีแนวทางจะแก้ไขเพียงมาตราเดียว เหมือนกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2534 ที่แก้ไขมาตรา 211 เปิดทางให้มีส.ส.ร. มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่แนวทางนั้นผมยอมรับว่าเราต้องได้รับฉันทามติจากประชาชนก่อน หากในการเลือกตั้ง นโยบายเรื่องแก้รัฐธรรมนูญของพรรคเป็นที่ยอมรับและได้รับฉันทามติจากประชาชน เลือกผู้แทนของพรรคเข้ามาทำหน้าที่ เกิน 200 คนเชื่อว่าหนทางแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นจริงได้ แม้เงื่อนไขหนึ่งต้องให้ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้่ง ของ คสช. ร่วมด้วย เชื่อว่าเขาจะไม่ฝืนเจตจำนงของประชาชนแน่นอน” นายชำนาญ กล่าว

ว่าที่รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวด้วยว่าหลังการจัดประชุมผู้ร่วมก่อตั้งพรรคแล้วเสร็จ ระหว่างนี้คือขั้นตอนการตรวจสอบรายละเอียดของผู้ร่วมก่อตั้งพรรค กว่า 700 คน และเตรียมเอกสารส่งให้ กกต. ฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ จากนั้นจะมีขั้นตอนตรวจสอบโดยกกต. ทั้งนี้ตนประเมินว่าการรับจดจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองจะมีขึ้นช่วงเดือนกรกฎาคมนี้.