วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (28 พ.ค.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (28 พ.ค.61)

กังวลโอเปคเพิ่มกำลังการผลิต ฉุดราคาน้ำมันลงกว่า 4 เปอร์เซ็นต์

- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงมากกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังตลาดเผชิญกับการเทขายทำกำไรจากความกังวลว่าซาอุดิอาระเบียและรัสเซียอาจเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับอุปทานที่หายไปจากเวเนซุเอลาและอิหร่าน โดยจากการประชุมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของทั้งสองประเทศที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้มีแนวคิดที่จะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือเพิ่มกำลังการผลิตกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในประชุมโอเปคในวันที่ 22 มิ.ย. 61

-  ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูงราว 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวันและมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 11 ล้านบาร์เรลต่อวันในไตรมาสสุดท้ายของปี  หลังราคาน้ำมันดิบยังคงสูงกว่าต้นทุนการผลิต โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาปริมาณแท่นขุดเจาะ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 พ.ค. เพิ่มขึ้นมากถึง 15 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 859 แท่น ซึ่งเป็นระดับที่มากสุดในรอบ 3 ปี

+ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 2.0 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ม.ค. 60 หลังประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ นอกจากนี้ เวเนซุเอลายังคงเผชิญกับแรงกดดันที่มากขึ้น หลังสหรัฐฯ เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อเวเนซุเอลา เพื่อกดดันรัฐบาลหลังในวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา Nicolás Maduro ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงเท่ากับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นและอุปทานที่คาดจะตึงตัวขึ้นจากการลดกำลังการกลั่นของโรงกลั่นจีน อย่างไรก็ตาม ราคายังคงถูกกดดันจากน้ำมันเบนซินคงคลังทั่วโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ยังคงเติบโตในระดับสูงต่อเนื่อง

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 68-73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 75-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • จับตาการประชุมของผู้ผลิตกลุ่มโอเปคว่าจะมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับอุปทานที่ตึงตัวหรือไม่ หลังปริมาณน้ำมันคงคลังของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วปรับลดลงอย่างมากมาอยู่ที่ระดับเหนือค่าเฉลี่ย 5 ปี เพียงแค่ 9 ล้านบาร์เรล รวมถึงอุปทานที่มีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้นจากเวเนซุเอลาที่กำลังการผลิตปรับลดลงต่อเนื่อง และอิหร่านที่เผชิญกับการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
  • ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้น้ำมันโลกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคกยังคงเดินหน้าปรับลดลงกำลังการผลิต
  • ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบทรงตัวเหนือระดับต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตในสหรัฐฯ ส่งผลให้จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

----------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

        โทร.02-797-2999