ใครคือเจ้ายุโรป!"ราชัน"ปะทะเดือด"หงส์แดง"ศึกยูซีแอลรอบชิงฯ

     การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2017-2018 รอบชิงชนะเลิศ วันนี้ (26 พ.ค.) เรอัล มาดริด แชมป์ยุโรป 12 สมัย พบกับ ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 5 สมัย ที่สนามเอ็นเอสเค โอลิมเปียสกี กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เวลา : 01.45 น.

     ความพร้อมเกมนี้เริ่มที่ "ราชันชุดขาว" ของกุนซือ ซีเนดีน ซีดาน ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน หลังล้ม บาเยิร์น มิวนิค มาได้ โดยเกมนี้ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ หรือติดโทษแบนแต่อย่างใด ทำให้พร้อมจัด 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามอย่างแน่นอน

     การจัดทัพมาในระบบ 4-3-1-2 ผู้นักษาประตู เกย์ลอร์ นาวาส แนวรับมี ดาเนียล การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส และ มาร์เซโล่ แดนกลางใช้ ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร และ โทนี่ โครส ขณะที่เกมรุกมี อีสก้ ปั้นเกมรุกข้างหลัง คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด

     ด้าน "หงส์แดง" ของเทรนเนอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมเข้าชิงชนะเลิศในถ้วยนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เจ้าตัวเข้ามาคุมทัพ โดยในรอบรองชนะเลิศเอาชนะ โรมา มาได้ แบบหวุดหวิด 7-6

     สภาพทีมเกมนี้ จะไม่มี  โฌแอล มาติป, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ โจ โกเมซ ที่เจ็บอยู่ก่อนหน้า อย่างไรก็ตามจะได้ เอ็มเร่ ชาน และ เจมส์ มิลเนอร์ คืนทัพ

    ส่วนการจัดทีมในระบบ 4-3-3 นายทวาร ลอริส คาริอุส แนวรับใช้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ด้านกองกลางมี จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์ ขณะที่ 3 ประสานในด้านหน้า มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ นำทีม

    สำหรับทั้งคู่เจอกันมาแล้ว 5 นัดในรายการนี้ โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะได้มากกว่า 3 นัด และ เรอัล มาดริด ชนะ 2 นัด ซึ่งหนึ่งในนั้นมีนัดชิงชนะเลิศในปี 1981 หงส์แดง ชนะ 1-0