ลงสลับรีบาวด์ กรอบ 1745-1761 จุด

ลงสลับรีบาวด์ กรอบ 1745-1761 จุด

ต่ำกว่า 1746 จุด ถือเงินสด

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้

ตลาดหุ้นไทยปิดลดลงต่อเนื่อง นำโดย PTT PTTEP SCC มีผลต่อดัชนีฯ รวมเกือบ 8 จุด แม้ปลายตลาดได้ข่าวดี ศาล รธน. วินิจฉัยร่างกฎหมาย รธน. ที่มา ส.ว. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดคละ หลังรายงานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ แต่ไม่สูงไปกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เดิม

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

ระยะเดือน - คาดผันผวนในกรอบ 1730-1780 จุด อิงความเสี่ยงขาลงของตลาดหุ้นโลกยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะประเด็นสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ นโยบายดอกเบี้ยเฟดที่เป็นทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง และการวิตกต่ออุปทานน้ำมันดิบ ซึ่งจะเป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทย

รายวัน - คาดลงสลับรีบาวด์ โดยจุดลุ้นรีบาดว์อยู่ที่ 1745/30 จุด แนวต้าน 1760 จุด ส่วนต่างดอกเบี้ยที่ยังคงกว้างขึ้นระหว่างดอกเบี้ยไทยและสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนแรงขายต่างชาติในระยะสั้น อย่างไรก็ดี เราคาดว่า แรงขายต่างชาติจะชะลอลงหลังโอกาสเลือกตั้งไทยตามโรดแม๊ปเดิมมีความเป็นไปได้สูงขึ้น (จับตาผลวินิจฉัยร่าง ส.ส. พุธหน้า)

ประเด็นสำคัญวันนี้

1) + โรดแมปเลือกตั้งไทย: ศาล รธน. วานนี้ วินิจฉัยร่างที่มา ส.ว. ไม่ขัดต่อ รธน.และนัดลงมติร่างกฎหมายลูก ส.ส. วันที่ 30 พ.ค. นี้ และหากลงมติไม่ขัดเช่นกันคาดว่าโรดแมปเลือกตั้งเดิมมีความเป็นได้สูง (ดูรายงานพิเศษ)

2) + กลุ่มทีวีดิจิทัล: คสช. ออก ม.44 ช่วยเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่ไม่เคยฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ผ่านการพักชำระค่าใบอนุญาต 3 ปีและลดค่าเช่าโครงข่าย 50% เป็นเวลา 2 ปี คาดส่งผลบวกสูงสุดต่อ BEC (14% ของกำไรปี 61) ราคาเป้าหมาย 6 บาท และน้อยสุด คือ WORK RS ราคาเป้าหมาย 79.50 บาท และ 37.75 บาทตามลำดับ (ดูรายงานวันนี้)

3) - FOMC Minute: เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเร็วๆ นี้ และอาจปล่อยให้อัตราเงินเฟ้อเกินระดับเป้าหมาย 2.0% ชั่วคราว บ่งบอกว่าไม่เร่งคุมเข้มนโยบายทางการเงิน (เราคาดว่า โอกาส 60% ขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ 3 ครั้ง และ 40% ขึ้น 4 ครั้ง ขณะที่คาดว่ากนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยฯ ครั้งแรกใน 4Q61F)

4) + DJIA +52.40 จุด +0.21% Nasdaq +47.50 จุด +0.64% รายงานเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้และผลบวกภาคการผลิต Markit PMI พ.ค. สูงสุดรอบ 44 เดือน ที่ 56.6 Vs เม.ย. 56.5 ภาคบริการสูงสุด 3 เดือน ที่ 55.7 Vs เม.ย. 54.6

5) +/- Commodity: น้ำมันคละ WTI ก.ค. -$0.36 ปิดที่ $71.84/บาร์เรล Brent ก.ค.+$0.23 ปิดที่ $79.80/บาร์เรล EIA รายงานสต๊อคน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนสูงกว่า
คาดการณ์ (เพิ่ม 5.8 ล้านบาร์เรล Vs คาดลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล) ส่วนราคาถ่านหินวานนี้ลดลงเล็กน้อย -0.2% และค่าระวางเรือลงเป็นวันที่ 7 -37 จุด

กลยุทธ์

         กลับมาเลือกเก็งกำไรรายตัว โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1745 จุด

หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)

         PLANB (ลงทุน BNK48) VGI (ปรับ TP เป็น 8.80 บ. ลงทุน Kerry) กลุ่มรับเหมาฯ (รัฐเปิดขายซองรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน CK STEC UNIQ)