MORNING CALL ACTION NOTES (23 พ.ค.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (23 พ.ค.61)

กังวลสงครามการค้า

ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ อ่อนตัวผันผวนจากแรงขายในกลุ่ม ENERG ท่ามกลางความกังวลการตรึงราคาน้ำมันจากกระทรวงพลังงาน รองลงมาเป็นกลุ่ม COMM ขณะที่ BANK ยังฟื้นตัวมาชดเชยบางส่วน ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,760.71 จุด (-7.60 จุด) Volume 5.74 หมื่นลบ. ทั้งนี้เป็น Foreign Net -2,559.51 ลบ.  TFEX Net -5,741 สัญญา ตราสารหนี้ -1,264.52 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย  

+ส่งออกเดือน เม.ย. +12.34% นำเข้าขยายตัว 20.36% 4M61 +11.53% ก.พาณิชย์มองแนวโน้มส่งออกทั้งปี 61 มีโอกาสโตเกินเป้าที่ 8% เล็งทบทวนเป้าใหม่ช่วงกลางปี

+ตลท.เผย Q1/61 บจ.ไทยเติบโตดี กำไรสุทธิ 2.86 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 0.30%, ยอดขายโต 5.61% จากงวดปีก่อน

-ดาวโจนส์ปิดร่วงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนหลังทรัมป์เผยสหรัฐยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงใดๆกับรัฐบาลจีน

-สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กจีนที่ส่งออกผ่านเวียดนาม สกัดเลี่ยงภาษีทุ่มตลาด

-น้ำมันดิบปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีจากแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้จากการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่านและเวเนซุเอลา

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.04 แสนล้านบาท เงินบาทอยู่ที่ 32.01 บาท/USD

** จับตา 23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว. ว่าขัดกม.รัฐธรรมนูญหรือไม่

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขส่งออกของไทยที่ขยายตัวกว่า 12%YoY อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้เข้ามากดดันอีกครั้ง อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะขายอย่างต่อเนื่องคอยกดดันดัชนี คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,750-1,770 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- เดือนก.ค.รัฐปรับเพิ่ม B7 เป็น B20  GGC EA BCP PTG

- STA TRUBB ราคายางพาราปรับตัวขึ้นสู่ 183.5เยน/กก. +3%WTD

- หุ้นที่ Laggard ดัชนี CPF CK STEC UNIQ BJC

- JUBILE ATP30 AGE XO SSP TPCH หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต

- BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสู่ 106.6$/Ton +14% ในช่วง 20 วัน

- หุ้น EEC Play ได้แก่ WHA AMATA EASTW ATP30 ORI

- ทีวีดิจิทัล : ภาครัฐฯจ่อออก ม.44 และกสทช. ยืดจ่ายได้อีก 90 วันหลัง 23 พ.ค. 61 บวกต่อ BEC WORK MONO RS

หุ้นแนะนำพิเศษ

PF analyst meeting (ราคาปิด 0.92 ซื้อเก็งกำไร) ลุ้น turnaround

- 1Q61 มีกำไร 195 ลบ. +337% จากรายได้อสังหาฯ +57% ขณะที่รายได้ค่าเช่า -14%  และรายได้ธุรกิจโรงแรม -3% จากค่าเงินบาทอ่อน ด้าน operating margin ปรับดีขึ้นเป็น 8% จาก 7.6% ใน 1Q60 net margin ดีขึ้นสู่ 5% จาก 1.5% ใน 1Q60 backlog ณ สิ้นงวด ราว 6.7 พันลบ.แบ่งเป็นคอนโด 61% แนวราบ 39% ทั้งนี้ D/E ratio ยังทรงตัวสูงที่ 2.64 เท่าใกล้เคียงปลายปี 60 โดยลดลงจาก 2.8 เท่า ณ ปลาย 1Q60

- บริษัทมีแผน turnaround ในธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจโรงแรม  การร่วมทุนกับพันธมิตรหลายรายพัฒนาทั้งโครงการแนวราบและคอนโดฯ บุกตลาดไฮเอนด์ จะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้และอัตรากำไรที่ดีขึ้น  บริษัทมีแผนทยอยขายที่ดินในมือให้บริษัทร่วมทุนมูลค่ารวม 6 พันลบ. (กำไร 30% แต่รับรู้ได้ครึ่งเดียวตามสัดส่วนถือหุ้น) และขายสิทธิการเช่ามูลค่ารวม  2.7 พันลบ.(รับรู้รายได้ 100%) สำหรับธุรกิจโรงแรมที่ต่างประเทศมีแผน turnaround  คิโรโระรีสอร์ทที่ญี่ปุ่นโดยจับมือพันธญี่ปุ่นเปิดโรงแรมและคอนโด ski-in/ski-out ส่วนโรงแรมในประเทศจะเปิดเพิ่มจากที่มีอยู่และเพิ่งซื้อเพิ่มโรงแรมรอยัลออคิดเชอราตัน (ROH) เพิ่มจำนวนห้องและเน้นธุรกิจ MICE  รวมทั้งตั้งเป้าลดหนี้ให้มี Net IBD/E เหลือ 1.23 เท่า ณ ปลายปี 61 จากระดับ 1.6 เท่าณ เพื่อลดคชจ.ทางการเงิน

- ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มผลการดำเนินทั้งปี 61 น่าจะเติบโตสูงจากปี 60 จากการบันทึกกำไรจากการขายที่ดินต้นทุนต่ำในการพัฒนาโครงการร่วมทุนและแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากมูลค่าโครงการเปิดใหม่ที่สูงกว่า  ส่วนแผน turnaround ธุรกิจโรงแรมคาดว่าจะเริ่มเห็นผลสำเร็จตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 61 ในการรับรู้รายได้จาก ROH และชัดเจนขึ้นในอนาคตหากแผน turnaround คิโรโระรีสอร์ททำได้สำเร็จ  ราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับต่ำกว่า BV โดยซื้อขาย 0.6 เท่า แนะนำ ซื้อเก็งกำไร

หุ้นมีข่าว   

·        CK Analyst Meeting (ราคาปิด 25.25 บาท Bloomberg Consensus 31.47 บาท) บริษัทคงเป้ารายได้ที่ 3 หมื่นล้านบาทแม้ 1Q61 ตะทำได้เพียง 24% ของเป้ารายได้ แต่คาดว่ารายได้จะเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มดีขึ้น (1Q61 GP อยู่ที่ 7.97%) เหนือ 8% จากการรับรู้งานในมือที่มี GP สูงกว่างานในอดีต

·        งานประมูลปี 18 มีมากถึง 7.8 แสนล้านบาทจากงาน 1)ทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง 2)มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง 3)รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน 4)รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และ 5)รถไฟทางคู่ 9 เส้นทางซึ่งคาดว่าจะทยอยทำการประมูลได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดย CK พร้อมเข้าร่วมประมูลงานโดยคาดหวัง GP อย่างน้อย 8% หรือ IRR สูงกว่า 15%

·        ความเห็น คาด 2Q61 รายไดจะเร่งตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้ของโรงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสัญญา 6 และรถไฟฟ้าสายสีส้ม 3 สัญญา นอกจากนี้มีการรับรู้เงินปันผลจาก TTW และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรพิเศษจาก BEM ขายหุ้นไซยะบุรีให้แก่ CKP เพิ่มเติม

·        GPI (ราคาปิด 3.18 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.20 บาท) ในงวด 2Q61 จะมีการจัดงาน “Off Road Day” ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 3 มิ.ย. 61 และงาน “Honda Racing 2018” วันที่ 29 พ.ค. – 1 มิ.ย. 61 นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานในงวด 2Q61 ยังมีการรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือจากการจัดงาน Motor Show ในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเตรียมรุกธุรกิจใหม่ด้าน “eRacing Sport” ในวันที่ 8 – 10 มิ.ย. 61 (ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)

·        ความเห็น การจัดงานแข่งรถดังกล่าว 2 งาน น่าจะมาช่วยหนุนรายได้ในงวด 2Q61 บางส่วน โดยการเติบโตหลักยังคงมาจากการรับรู้รายได้จากงาน Motor Show ทำให้คาดว่าผลประกอบการงวด 2Q61 จะยังมีการเติบโต YoY ในระดับใกล้เคียงกับงวด 1Q61 ส่วนงาน e-Sport น่าจะเป็นเพียงการทดลองตลาด คาดว่ายังไม่มีสาระสำคัญในประมาณการ ปัจจุบัน แม้งาน Motor Show ที่เมียนมาร์อาจมีการเลื่อนออกไปเพราะปัญหาด้านสถานที่ แต่ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมในประมาณการ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยฐานะการเงินดีเยี่ยม (เงินสดหลังจ่ายปันผลระหว่างกาลและหนี้สินกว่า 311 ล้านบาท หรือต่อหุ้นกว่า 0.50 บาท)

·        ประเด็นลบกลุ่มแบงก์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ : เครดิตบูโร" ระบุความเสี่ยงสะสม 3 ปี ส่งผลหนี้เสียรอบใหม่พุ่งกว่า 7 แสนล้านบาท จากหนี้ที่ปรับโครงสร้างไปแล้วกว่า 1.5 แสนล้านบาทเมื่อปี 58 พบคนอายุ 37 ปี เอ็นพีแอลเพิ่ม 14% สูงเกินค่าเฉลี่ยที่ 7% ชี้ไตรมาส 2 จับตาใกล้ชิดสินเชื่อบ้าน เหตุทั้งดีเวลอปเปอร์และรายย่อยใช้เงินกู้

·        ความเห็น หาก NPL เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้คชจ.สำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นกดดันผลประกอบการหุ้นแบงก์ ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาฯได้รับผลกระทบเช่นกันหากลูกค้ากู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่านทำให้ต้องวนขายหลายรอบ

·        หน่วยลงทุนใหม่กองทุน DIF พร้อมเข้าเทรดวันนี้ (23 พ.ค.) ชูศักยภาพทรัพย์สินและผลการดำเนินงานย้อนหลังโดดเด่น มั่นใจนักลงทุนตอบรับดีขานรับประมาณการเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น โดยตอบแทน (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        (+) KTB กองทุนเก็บหุ้นกรุงไทยเด้งรับเข้าคำนวณดัชนี MSCI Minimum Volatility คาดเม็ดเงินเข้าลงทุน 20.13 ล้านเหรียญ เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ มาร์เก็ตแคปสูง และให้ผลตอบแทนที่แน่นอนในระยะยาวโดยจะมีผลวันที่ 31 พ.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)