อย.-กสทช. เดินหน้าสั่งระงับการออกอากาศโฆษณาที่ผิดกฎหมาย 

อย.-กสทช. เดินหน้าสั่งระงับการออกอากาศโฆษณาที่ผิดกฎหมาย 

อย.-กสทช. เดินหน้าสั่งระงับการออกอากาศโฆษณาที่ผิดกฎหมาย ทั้งอาหารและเครื่องสำอางต่อเนื่อง พบจำนวนช่องที่ออกอากาศลดลง ทีวีดิจิตอลเหลือเพียง 2 ช่อง

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) พร้อมด้วยนายแพทย์วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภก.สมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ทำงานร่วมกันเพื่อตรวจสอบเฝ้าระวังการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีเนื้อหาผิดกฎหมายทางสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และเว็บไซต์ ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. เป็นต้นมา มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยจำนวนช่องที่มีการออกอากาศโฆษณาที่ผิดกฎหมายมีจำนวนลดลง


นายฐากร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 16-18 พ.ค. 2561 พบว่า มีทีวีดิจิตอลเพียง 2 ช่องที่ออกอากาศโฆษณาอาหารและเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมาย ได้แก่ ช่องสปริงนิวส์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร REAL อัลฟ่า คลอโรฟิลล์ และช่อง Nation TV ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชาริส ส่วนช่องโทรทัศน์ดาวเทียม/เคเบิลทีวี มีทั้งหมด 10 ช่อง รวม 13 ผลิตภัณฑ์ แต่การโฆษณาในฝั่งเว็บไซต์มีจำนวนเพิ่มขึ้น 20 URL ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาว่ามีผลกับโครงสร้างของร่างกาย การเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อ้างสรรพคุณเพื่อการรักษาโรค
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบจากวันที่ 4-15 พ.ค. 2561 ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกที่ทั้งสองหน่วยงานร่วมมือกัน สำนักงาน กสทช. ได้ระงับการออกอากาศโฆษณาที่ผิดกฎหมายในทีวีดิจิตอลไปแล้วจำนวน 7 ช่อง รวม 13 ผลิตภัณฑ์ ช่องโทรทัศน์ดาวเทียม/เคเบิลทีวีจำนวน 25 ช่อง 22 ผลิตภัณฑ์ และเว็บไซต์จำนวน 10 URL


“หลังจากสำนักงาน กสทช. และ อย. ได้ทำงานร่วมกันเพื่อระงับการออกอากาศโฆษณาที่ผิดกฎหมายพบว่า ขณะนี้ทิศทางเริ่มดีขึ้น จำนวนโฆษณาที่ผิดกฎหมายที่ไปออกช่องทีวีดิจิตอลเริ่มลดลง ยังคงมีเว็บไซต์ที่อาจเพิ่มขึ้น แต่ทั้งสองหน่วยงานจะยังทำงานร่วมกันติดตามโฆษณาเหล่านี้อย่างเข้มข้น ผมเชื่อว่าในช่วง 1-2 เดือนจากนี้แนวโน้มโฆษณาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ผิดกฎหมายที่ออกอากาศผ่านโทรทัศน์จะมีจำนวนลดลง” นายฐากร กล่าว


ด้าน ภก.สมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะพบว่าโฆษณาที่ผิดกฎหมายอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่โฆษณาว่าเป็นยารักษาโรค ทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญ ส่วนเครื่องสำอางจะเป็นลักษณะการโฆษณาที่ทำให้เข้าใจว่ามีผลต่อโครงสร้างของร่างกาย เช่น การปรับสีผิว ผิวขาว หยุดผมร่วง เป็นต้น ส่วนโฆษณาผ่านเว็บไซต์ที่พบเป็นเรื่องการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งได้ส่งเรื่องให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการแล้ว