MORNING CALL ACTION NOTES (21 พ.ค.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (21 พ.ค.61)

ขึ้นในกรอบจำกัด

ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ ยังคงผันผวนทั้งแดนลบและบวก โดยมีแรงกดดันจากต่างประเทศ คือ Bond Yield สหรัฐฯที่ยังปรับตัวขึ้น กดดันหุ้น Big cap อาทิ ENERG TRANS COM แต่กลุ่ม ICT มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวจากการถอนตัวเข้าประมูลคลื่น 1800 Mhz ของ TRUE มาหักล้างแรงกดดันดังกล่าว ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,754.17 จุด (+2.97 จุด) Volume 6.02 หมื่นลบ. ทั้งนี้เป็น Foreign Net -5,799.87 ลบ.  TFEX Net +6,615 สัญญา ตราสารหนี้ -8,163.17ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย  

+สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าชั่วคราว โดยได้ข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจและการค้า

+ยูโรโซนมียอดเกินดุลการค้า 26.9 พันล้านยูโรในเดือนมี.ค.

+ทีมเศรษฐกิจลุยโรดโชว์ดึงประเทศเป้าหมายทั้งเอเชีย ยุโรป สหรัฐ แบบรัฐต่อรัฐหรือเอกชนร่วมลงทุน หลังกฏหมายอีอีซีมีผลบังคับใช้

- น้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวลง จากแรงเทขายของนักลงทุน และถูกกดดันจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานที่ทรงตัวในระดับสูงที่ 844 แท่น

-ชาวตุรกีกว่า 2 แสนเดินขบวนประท้วงกองกำลังอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์

+/- ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อยหลังจีนยอมรับข้อเรียกร้องหลายข้อของรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงเสนอลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐลง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.4 ล้านล้านบาท) แต่ยังขัดแย้งกับการแถลงการณ์ของจีนก่อนหน้านี้

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 9.93 หมื่นล้านบาท เงินบาทอยู่ที่ 32.17 บาท/USD

**21 พ.ค.  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลข GDP Q1/61 

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐและจีนได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจและการค้า บอนด์ยีลด์สหรัฐชะลอตัว ส่วนปัจจัยบวกในประเทศมาจากความคืบหน้าของการลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยมีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ปิดลดลง และ fund flow ที่ยังผันผวนต่อเนื่อง คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,744-1,763 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- JUBILE ATP30 AGE XO SSP TPCH หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต

- BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสู่ 108.3$/Ton +15% ในช่วง 18 วัน

- หุ้น EEC Play ได้แก่ WHA AMATA EASTW ATP30 QH ORI

หุ้นแนะนำพิเศษ

  • SSP (ซื้อ ราคาเหมาะสม 5 บาท) รายงานกำไรสุทธิ 1Q61 ที่ 106.6 ลบ. เพิ่มขึ้น 4.2 %YoY โดยกำไรสุทธิ 1Q61 คิดเป็น 23% ของคาดการณ์กำไรสุทธิปี 61 ที่ราว 464 ลบ. +36 %YoY เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้โครงการฮิดากะ และโครงการโซลาร์รูปท๊อป 2 โครงการ (SNNP1 และ SNNP2) ในช่วงเดือนมี.ค. 61 และบริษัทมีการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวของบริษัทประมาณ 715 ลบ. ทำให้ค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือ 26.5 ลบ. -30.6 %YoY โดยบริษัทมีแผนปรับโครงสร้างเงินกู้เพื่อให้การบันทึกผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จะไม่บันทึกผ่านงบกำไรขาดทุนของบริษัท โดยเริ่มตั้งแต่ 1Q61 เป็นต้นไป
  • ความเห็น : คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q61 จะเติบโตโดดเด่นจากปัจจัยหนุนด้านฤดูกาลและการรับรู้รายได้จากโครงการฮิดากะแบบเต็มไตรมาส ประกอบกับการปรับโครงสร้างทางการเงินจะช่วยให้งบกำไร/ขาดทุนของบริษัทสะท้อนผลการดำเนินงานที่แท้จริงออกมาได้ (ไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นภายในกลุ่มบริษัท)
  • ฝ่ายวิจัยมีมุมมองในเชิงบวกจาก Analyst Meeting : โครงการโรงไฟฟ้าโซเอ็นที่ญี่ปุ่นและโรงไฟฟ้า Khunshight Kundi ที่มองโกเลียมีโอกาส COD เร็วกว่าคาดที่3Q61 และ 4Q61 ตามลำดับ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดหนึ่งไตรมาส อีกทั้งได้มีการปรับโครงสร้างทางการเงิน ทำให้ได้ต้นทุนการเงินที่ต่ำลงทั้งในไทยและญี่ปุ่น โดยบริษัทยังมีแผนการลงทุนในต่างประเทศต่อเนื่อง อาทิ มองโกเลีย ญี่ปุ่น เวียดนาม

ส่องหุ้น

  • HYDRO   แนวรับ 1.41 บาท  แนวต้าน 1.48-1.49 , 53-1.54 บาท
  • ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้แล้ว อีกทั้งยังปิดได้ในระดับสูงของวัน โดยระดับราคากำลังจะมีลุ้นผ่านแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแถวๆ 1.49 บาทได้อีกด้วย พร้อมทั้ง MACD ที่ใกล้จะผ่านขึ้นมายืนเหนือระดับศูนย์ได้อีกด้วย หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ 1.41 บาทอีก น่าซื้อเพิ่ม ลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high ต่อได้แถวๆ 1.53-1.54 บาทต่อไป
  • ADVANC แนวรับ 190.50 บาท แนวต้าน 194-195 , 50 บาท
  • ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดในกรอบ BollingerBottom ได้ อีกทั้งยังปิดได้ในระดับสูงของวันหลังจากลงไปหนักๆ ติดต่อกัน 3 วัน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่อยู่ในระดับสูง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 190.50 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 200 วัน ขึ้นไปทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันแถวๆ 194-195 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์แถวๆ 199.50 บาทต่อไป
  • DTAC แนวรับ 46.75-45.75 บาท        แนวต้าน 48.00 , 50-50.50 บาท
  • ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาได้เป็นครั้งแรกหลังจากปรับตัวลดลงแรงติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์ โดยถอยกลับลงมาทดสอบแนวรับเดิมๆ ที่ 44.25 บาทจึงมีการดีดกลับ อีกทั้งยังปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 46.75-45.75 บาทอีก ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ที่ 48.00 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแถวๆ 49.50-50.50 บาทต่อไป

หุ้นมีข่าว   

SIRI Analyst Meeting (ราคาปิด1.69 ซื้อ Bloomberg Consensus 1.93) : กำไร Q1 ดูแย่แต่จะ peak ไตรมาสสุดท้าย

·        กำไร 1Q61 เท่ากับ 251 ลบ. -68%QoQ (เทียบกับ Q4 ที่ peak ทุกปี) -51%YoY ผลการดำเนินงานอ่อนแอสุดเนื่องจากมียอดโอนต่ำ ยอดโอนคอนโดน้อยมาก -64%QoQ -68%YoY จากที่ได้โอนไปเยอะใน 4Q60  ด้านยอดขาย presale แม้ดูต่ำใน 1Q61 โดยอยู่ที่ 6.8 พันลย. -51%QoQ +2%YoY แต่คาดจะเร่งตัวขึ้นมากใน 2Q61 จาก big launch 15 โครงการมูลค่า 1.5 หมื่นลบ.+15%QoQ ทั้งทาวน์เฮาส์และคอนโดฯ โดยมีการเปิดตัวทาวน์เฮ้าส์แบรนด์ใหม่ "Siri Place" มีผลตอบรับดี

·        ในช่วง 3Q6 มูลค่าโครงการเปิดใหม่ 8 โครงการสูงถึง 2.1 หมื่นลบ.  ปลายงวด 1Q61 มี backlog 1.65 หมื่นลบ.ทำให้เป้ารายได้ 2.3 หมื่นลบ.มี backlog รองรับแล้ว 55% ผลประกอบการมีแนวโน้มปรับดีขึ้นทุกไตรมาส และมีแนวโน้มสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายที่เป็นช่วงไฮซี่ซั่น ทั้งนี้  Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 2.9 พันลบ.+4% การลงทุนระยะยาวมี yield ที่ประมาณการโดย IAA Consensus เฉลี่ยราว 5.9% ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER 10 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 17 แนะนำซื้อ

·        PTT (ราคาปิด 57 บาท Bloomberg Consensus56.75 ) ชี้ Q2/2561 เติบโตดี หลังราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาขึ้น มองกรอบทั้งปีที่ 66-71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แถมโรงกลั่น GSP แห่งที่ 2 กลับมาเดินเครื่องเต็มกำลัง พร้อมพุ่งเป้าอัพสัดส่วนรายได้ Non-Oil แตะ 30% ภายใน 5 ปี ขณะที่ทุ่มงบกว่า 3.42 แสนล้านบาท สานต่อโครงการท่อส่งก๊าซ LNG เส้นที่ 5 (ที่มาทันหุ้น)   

·        +WHA (ราคาปิด 4.24 บาท Bloomberg Consensus 4.61) เจรจาพันธมิตรลงทุนนิคมฯใน EEC คาดชัดเจน 1 รายภายในปีนี้,รุกขยายลงทุนไปเมียนมา H2/61

·        ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา รฟท.คาดเคาะ TOR รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในพ.ค.นี้ และรมว.คลัง เตรียมประชุมคณะกรรมการร่วมรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 24 วันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ ขณะที่ “ร.ฟ.ท.” ยันได้เริ่มกระบวนการประมูลช่วงที่ 2 ปากช่อง-ขนานจิต ระยะทาง 11 กม. ภายในต้นเดือน มิ.ย.2561

·        +NWR ได้งานสร้างบ่อพัก-ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู มูลค่า 1.43 พันลบ.

·        AMA (ราคาปิด 7.20 บาท ถือ อยู่ระหว่างปรับประมาณการ) ผู้บริหารมั่นใจผลงานงวด 2Q61 ฟื้นตัว ทุ่มงบลงทุน 800 ล้านบาท เดินหน้าขยายกองเรือเพิ่มอีก 2 ลำ เป็น 12 ลำ หนุนน้ำหนักบรรทุกรวมทะลุ 1 แสนเดตเวตตัน พร้อมขยายกองรถบรรทุกขนส่งอีก 30 คัน แตะ 180 คัน (ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)

·        ความเห็น สำหรับงวด 2Q61 ฝ่ายวิจัยคาดว่ายังคงมีหลายัจจุบันกดดันต่อเนื่องจากงวด 1Q61 คือ 1) ราคาน้ำมันดิบ Brent (แหล่งอ้างอิงต้นทุนน้ำมันของบริษัท ซึ่งเป็นสัดส่วนต้นทุนกว่า 20 – 30%) ในงวด 2Q61 (QTD) มีค่าเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นทั้ง 12%QoQ และ 40 - 50%YoY 2) ราคาน้ำมันปาล์มที่ยังอยู่ในระดับต่ำ (ลดลงจากรอบ 1.5 ปี กว่า 30%) กระทบต่อผู้ปลูกปาล์มในมาเลฯและอินโดฯ (ลูกค้ารายหลัก) กดดันโอกาสในการปรับขึ้นค่าระวางเรือของบริษัท แม้อาจได้รับผลชดชเชยบางส่วนจากการผ่านพ้นช่วงมรสุม ที่ทำให้รอบการเดินเรือมีมากขึ้นและอัตราการใช้น้ำมันลดลง แต่เบื้องต้นยังคาดว่าบริษัทยังน่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับต่ำ ด้านราคาหุ้นมีการปรับตัวลงมามากแล้ว ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” โดยอยู่ระหว่างปรับประมาณการและราคาเหมาะสม

·        + กลุ่มโทรคมนาคม : กสทช.ยันเดินหน้าจัดประมูลคลื่น 1800 MHz แม้อาจเหลือผู้เข้าร่วมเพียงรายเดียวหลัง TRUE ประกาศถอยรายแรก ส่วน ADVANC อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ตัดสินว่าจะเข้าร่วมประมูลหรือไม่ราวปลายเดือน พ.ค.นี้         (ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสต์)

·        ความเห็น เป็นประเด็นที่ช่วยผ่อนคลายความกังวลด้านการแข่งขันประมูลคลื่นบางส่วน โดยหากช่วงปลายเดือน พ.ค. 61 ADVANC ออกมาสรุปการตัดสินใจของบริษัท สามารถแบ่งเป็นเป็น 2 กรณีได้ดังนี้ คือ 1) เข้าร่วมประมูล เชื่อว่าจะเป็นการประมูลที่ไม่ดุเดือดมากนัก เนื่องจากทั้ง DTAC และ ADVANC ต่างมีคลื่นในมือที่พร้อมให้บริการเพียงพออยู่แล้ว คาด Neutral ต่อราคาหุ้น DTAC ADVANC ขณะที่อาจกดดัน TRUE 2) หาก ADVANC ไม่เข้าร่วม คาดเป็นบวก DTAC เนื่องจากจะไม่มีการแข่งขันด้านราคาเกิดขึ้น และได้ใบอนุญาตอย่างน้อย 1 ใบ ซึ่งจะส่งผลให้ DTAC มีกลับมามีความสามารถในการแข่งขันอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ยังแนะนำให้ “หาจังหวะเข้าซื้อเก็งกำไร” DTAC (Bloomberg Consensus 52.8 บาท) ไปพร้อมกับการติดตามข่าวจาก ADVANC ใกล้ชิด

·        บอร์ด TLUXE อนุมัติร่วมทุน"ริช พาร์ทเนอร์ส"ในโครงการมิกซ์ยูสในเวียดนามกว่า 900 ลบ. (ที่มา SET news)

·        NWR ได้งานสร้างบ่อพัก-ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู มูลค่า 1.43 พันลบ.

·        เอกชัยการแพทย์ ส่งสัญญาณจากนี้ไปธุรกิจของ EKH เข้าสู่ยุคเฟื่องฟู หลังเปิดให้บริการศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ รองรับผู้มีบุตรยากทั้งในประเทศและสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้บริหารเผยช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ดันผลประกอบการทั้งปีโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 10% (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)