ตะลึง!! ขอทานเสียชีวิตมีเงินกว่า 30 ล้านในบัญชี

เวบไซต์สำนักข่าว อาหรับ นิวส์ รายงานว่า เมื่อ ฟาติมะห์ ออทมาน ขอทานพิการนอนตายอยู่ในรถถูกทิ้งร้างข้างทางในย่านบาร์บีร์ ของกรุงเบรุต เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ตำรวจก็คิดว่าเป็นโศกนาฏกรรมชีวิตของคนไร้บ้านและยากจนอีกราย 

 แต่ต้องตะลึงเมื่อพบว่า ออทมาน วัย 52 ปี มีกระเป๋า 2 ใบจุเงินอยู่ 3,400 ดอลลาร์ (ราว 1 แสนบาทเศษ ) และช็อกต่อเมื่อพบว่า นอกจากเงินสดแล้ว ยังมีสมุดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารใกล้เคียง 3 บัญชี แสดงยอดเงินในบัญชีราว 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( 35 ล้านบาท)

ตำรวจสรุปว่าเธอเสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลว แต่ทิ้งปริศนาไว้หลายข้อ ไม่มีใครรู้ว่าเธอเก็บออมเงินมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร ก่อนสิ้นลมอยู่ในรถที่บางข่าวระบุว่าเป็นรถไม่มีเจ้าของ บางสำนักระบุว่าเธอขอทานอยู่บนถนนบาสตา มานาน 20 ปี และเช่ารถคันนี้ไว้เป็นที่อาศัย ทุกเดือนจะมีผู้ชายคนหนึ่งมาอุ้มเธอไป ก่อนกลับมาในอีกวัน เธอบอกใครต่อใครว่าพาไปหาหมอ 

 

หญิงขอทานคนนี้ เป็นที่รู้จักดี นับจากมีภาพถ่ายทหารเลบานอนประจำโรงพยาบาลบาบีร์ ช่วยป้อนน้ำให้กับเธอที่ใช้มือและขาไม่ได้ผลจากอาการบาดเจ็บจากสงครามกลางเมือง กลายเป็นภาพส่งต่อในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ทหารคนนั้นได้รับคำชื่นชมจากผู้บังคับบัญชาในความมีน้ำใจและไม่ดูดาย 

 

ตอนนั้น ชาวสังคมออนไลน์หลายคนพากันล้อขอทานในเลบานอน เพราะเชื่อว่าเป็นอาชีพทำเงิน แต่ผู้สื่อข่าว NAJIA HOUSSARI ของอาหรับนิวส์  ที่เคยอาศัยอยู่ในเขตใกล้เคียง และต้องเดินข้ามเขตบาบีร์ไปโรงเรียนและเห็นหญิงพิการคนนี้ทุกวัน เขียนเล่าว่า ออทมานใช้มือไม่ได้จริงๆเพราะพิการแต่กำเนิด  เธอไม่เคยพูดหรือร้องขอ แค่ส่งสายตาเศร้าๆไปยังคนเดินผ่าน 

เขตบาบีร์อยู่ใกล้แนวหน้าในช่วงสงครามกลางเมืองเลบานอน เคยเป็นเป้าถล่มด้วยปืนใหญ่ ส่วนในยามสงบ เป็นตลาดทองคำที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน ออทมานเคยโดนสะเก็ดระเบิด และกลับมานั่งขอทานใหม่โดยมีผ้าพันแผลมาด้วย 
 

 

( ภาพ arabnews ) 

 

หลังเสียชีวิต ตำรวจติดตามหาจนเจอญาติ พบว่าครอบครัวของเธอมี 8 คน มีแม่ พี่/น้องชาย 2 คน และพี่/น้องสาว 5 คน อยู่ในเมืองอัคคาร์ ทางเหนือของเลบานอน  ญาติๆซึ่งฝังศพเธอเรียบร้อยแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไม่มีใครรู้เรื่องเงินของเธอมาก่อนเลย แสดงว่าไม่มีใครมาแสวงหาประโยชน์หรือบังคับให้สตรีผู้นี้ไปขอทาน คาดว่าเธอคงไม่กล้าบอกใครเรื่องเงินเก็บเพราะกลัวอันตราย แต่เธอก็เสียชีวิตโดยไม่มีใครรู้ว่าเธอตั้งใจนำเงินเก็บเหล่านั้นไปทำอะไร