ปปง. วางมาตรการล้อมคอกมิจฉาชีพ ซื้อขายบัญชีธนาคาร

ปปง. วางมาตรการล้อมคอกมิจฉาชีพ ซื้อขายบัญชีธนาคาร

ปปง. ถก 36 สถาบันการเงิน วางมาตรการล้อมคอกมิจฉาชีพซื้อขายบัญชีธนาคารใช้ทำผิดกม. ให้ธนาคารออกกฎลงโทษพนง.เอี่ยวขายข้อมูลลูกค้า เตือนปชช.รับจ้างเปิดบัญชีผิดฟอกเงิน

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.61 พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รักษาราชการแทน เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. ได้จัดประชุมหารือเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการซื้อขายบัญชีและการนำบัญชีไปใช้ในการกระทำความผิด ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงินภาคธุรกิจธนาคาร 36 แห่ง เพื่อลดปัญหาการซื้อขายบัญชีธนาคารที่นำไปใช้ในการกระทำความผิด

พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันการซื้อขายบัญชีธนาคารและการนำบัญชีธนาคารไปใช้ในการกระทำความผิดมีหลายรูปแบบ ซึ่งการจัดหาบัญชีธนาคารในการรับโอนเงินเป็นอีกหนึ่งรูปแบบสำคัญ ที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้ในการกระทำความผิด โดยใช้วิธีการซื้อขายบัญชีธนาคารกับคนที่ต้องการผลประโยชน์และประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้กระทบต่อภาคธุรกิจและประชาชนในวงกว้าง สำนักงาน ปปง. จึงได้กำหนดมาตรการสำหรับสถาบันการเงินให้สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการดังกล่าว เป็นการเร่งประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนให้ลูกค้าของสถาบันการเงินให้รับทราบถึงโทษของการรับจ้างเปิดบัญชี และการซื้อขายบัญชี ซึ่งตามกฎหมายฟอกเงินมีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี, กำหนดเงื่อนไขการใช้งานผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดมาตรการในการยืนยันตัวตนให้รัดกุมมากขึ้น เช่น การใช้ OTP, Biometric technology เพื่อให้การใช้งานผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์มีความปลอดภัย และกำหนดมาตรการในการป้องปรามและลงโทษพนักงานธนาคารที่อาจมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการซื้อขายบัญชีข้อมูลลูกค้า

ทั้งนี้ หากสถาบันการเงินดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ถือเป็นการช่วยปิดช่องโหว่ของมิจฉาชีพในการกระทำความผิดและลดจำนวนความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และฝากแจ้งเตือนประชาชนอย่าตกเป็นเครื่องมือให้กับมิจฉาชีพในการซื้อขายบัญชี เพราะอาจถูกดำเนินคดีฐานเป็นผู้สนับสนุนการฟอกเงิน และอาจมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงินซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท