สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 14-18 พฤษภาคม 2561

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 14-18 พฤษภาคม 2561

“เงินบาทยังอ่อนค่า ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลง หลังจากขยับขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์”

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

-  เงินบาททยอยอ่อนค่าลง ขณะที่ เงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด และจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 ที่ระดับ  นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงปลายสัปดาห์ ยังเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน

-  ในวันศุกร์ (18 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.19 เทียบกับ 31.85 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (11 พ.ค.)   

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (21-25 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.00-32.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2561 และข้อมูลการส่งออกเดือนเม.ย. ของไทย ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนพ.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รายงานการประชุมเฟดเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ค. สถานการณ์การเมืองในอิตาลี ความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนข้อมูล PMI ของประเทศชั้นนำอื่นๆ อาทิ ยูโรโซน และญี่ปุ่น 

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

-  ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,754.17 จุด ลดลง 0.67% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่  มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ปรับเพิ่มขึ้น 14.98% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 61,409.99 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 474.78 จุด ลดลง 0.89% จากสัปดาห์ก่อน

-  ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นช่วงสั้นๆ ในต้นสัปดาห์ ด้วยแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ก่อนที่จะร่วงลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3% อีกครั้ง อย่างไรก็ดี ดัชนี SET ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาช่วยประคองตลาดในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ จากราคาน้ำมันโลกยังทรงตัวในระดับสูง แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากการขายสุทธิของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติก็ตาม

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (21-25 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,745 และ 1,735 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,765 และ 1,780 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2561 ของไทย รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟด และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนพ.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) ของยูโรโซน และข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/2561 และอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษ