'รอมแพง 'แบไต๋ให้ฟังถึงนิยายเรื่อง 'พรหมลิขิต' ภาคต่อละครบุพเพสันนิวาส

'รอมแพง 'แบไต๋ให้ฟังถึงนิยายเรื่อง 'พรหมลิขิต' ภาคต่อละครบุพเพสันนิวาส

"รอมแพง" แบไต๋ให้ฟังถึงนิยายเรื่อง "พรหมลิขิต" มีเหตุเซอร์ไพร์ส รับกดดันหากถูดกรอบของเวลาจำกัดการทำงาน

กระแสความนิยมของละครเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" ยังคงแรงต่อเนื่องถึงแม้จะลาจอไปแล้วก็ตาม  จนหลายต่อหลายคนที่เป็นเอฟซีของพี่หมื่นและแม่การะเกด ตั้งหน้าตั้งตารอชมภาคต่อ ก่อนหน้านี้ทางผู้จัดละครอย่าง "หน่อง"อรุโณชา ภาณุพันธ์ และ รอมแพง นักเขียนยอมรับว่ากำลังวางแผนขั้นตอนการผลิตภาคต่อและใช้ชื่อว่า "พรหมลิขิต" ล่าสุดทางผู้จัดได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะเริ่มถ่ายทำปลายปี 2563 เมื่อมีโอกาสพบกับ รอมแพงจึงต้องถามไถ่ในการขั้นการเขียนนิยายเสียหน่อย

"ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้คือเรื่องบุพเพสันนิวาสนะใช้เวลา 5-7 ปี และไม่แน่ว่าพรหมลิขิตอาจจะใช้เวลาเท่าๆกับบุพเพสันนิวาส จริงๆเราบอกว่าใช้เวลาภายใน 5 ปี ("หน่อง"อรุโณชา บอกว่าอยากให้ได้ผลิตสักปี 63) ก็ยังเหมือนเดิม เราขอเวลาหาข้อมูลก่อน แล้วย่อยข้อมูลก่อน น่าจะเริ่มทำเดือนปลายมิถุนายน แล้วว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ก็ต้องรอดู ในระหว่างนั้นอาจจะมีข้อมูลย่อยๆ เพิ่มและเสริมเข้าไปอีก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะจบเมื่อไหร่ อันนี้ไม่สามารถบอกได้จริงๆนะ จะเริ่มเขียนปลายมิถุนายนเป็นช่วงที่ว่างแล้ว"

ล่าสุดที่ "หน่อง" อรุโณชา เผยว่าตัวของโป๊ปจะเล่นเป็นแฝด
"ตามที่พี่หน่องพูด (แล้วเบลล่าคือตัวละครที่ชื่อพุดตาล) อันนี้เราเก็บไว้เซอร์ไพรส์ (ทางผู้จัดบอกว่าต้องรีบทำกลัวพระนางแก่)ใช่นะ มันก็ต้องแล้วแต่ว่าเราจะเขียนได้ลื่นไหลได้ขนาดไหนนะ เป็นนักเขียนบอกได้ยากว่าจะเสร็จเร็วหรือช้า แต่เราพยายามทำให้ได้เร็วที่สุด อย่างบุพเพสันนิวาสคือเราหาข้อมูลได้แล้วเราเขียนได้เพียง 1 เดือนจบ เราหาข้อมูลมา 3 ปี สำหรับพรหมลิขิตเราหาข้อมูลมาให้เรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2555 เราคิดว่าเราจะทำภาคสองอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่ากระแสดีแล้วจะทำนะ  เราไปศึกษาอะไรต่อมิอะไรในยุคนั้นมาเพิ่มเติมแล้ว"

ลึกๆ กดดันไหมเมื่อทางผู้จัดละครมีกรอบของเวลามาให้
"ลึกๆ ถ้าเรื่องของระยะเวลาเรากดดันนะ เรื่องเขียนว่ามันจะประสบความสำเร็จเท่ากับบุพเพสันนิวาสหรือเปล่าเราไม่กดดันนะ เพราะว่าเราทำเต็มที่ ต่อให้ถ้ามันไม่ดีเท่ากับบุพเพสันนิวาส แต่เราทำเต็มที มันเป็นลักษณะของการทำงานมากกว่านะ ซึ่งตรงนั้นไม่กดดันเท่าไหร่ เรายังคงใส่มุกใส่อะไร ยังเป็นโรแมนติคอมมาดี้เหมือนเดิม" 

ยืนยันอีกครั้งว่าพรหมลิขิตไม่ได้มี "ซูซี่" มาเล่นด้วย
"ไม่น่าจะใช่นะ (สรุปโป๊ปเล่นเป็นฝาแฝด เบลล่าเล่นเป็นพุดตาล)แต่ว่ามันจะลึกไปกว่านั้น ไม่ใช่ผิวๆอย่างที่เห็น"

ประวัติศาสตร์ในสมัยพระเจ้าท้ายสระต้องศึกษามากขนาดไหนว่าจะกลั่นกรองออกมา
"เราต้องศึกษาในทุกกระแสในยุคๆนั้น ทุกๆอย่างในยุคนั้นต้องหาให้มากที่สุด (ข้อมูลในยุคพระเจ้าท้ายสระมีมากพอไหม)ไม่มากสักเท่าไหร่ ทำให้เราใส่จินตนาการได้มากกว่า เราอีกอย่างเราจะเล่นเรื่องของชาวบ้านมากกว่าขุนนาง (ถามว่าระหว่างสมัยพระนารายณ์กับพระเจ้าท้ายสระ สมัยไหนหาข้อมูลได้ยากกว่ากัน) ถ้าในสมัยพระนารายณ์เห็นภาพได้มากกว่า ถ้าในสมัยสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ ภาพที่เห็นมันจะน้อยจริงๆระยะเวลาครองราชย์ไม่สั้นเท่าไหร่ เพราะว่าเราเริ่มจากการครองราชย์ปีแรกเลย หลังจากพระเจ้าเสือสิ้นพระชนม์ไปแล้ว"

ถ้าหากงานไม่เสร็จเท่าตามกรอบเวลา แล้วตัวละครไม่ใช่โป๊ปและเบลล่าล่ะจะทำอย่างไร
"เราก็บอกไม่ได้นะ แต่ในฐานะของนักเขียนเราก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ ผลจะออกมาอย่างไรให้คนดูตัดสินเอาเอง (ณ วันนี้ได้ใส่ความเป็นโป๊กกับเบลล่าลงไปตัวละครที่เขียนไหม)ก็คงไม่ เราสร้างคาแร็ตเตอร์ที่เราคิดมาแล้ว คงไม่อิงจากเรื่องเดิม แต่เรื่องราวต่อจากเรื่องเดิม ยังมีพ่อแม่ และลูกที่โต ลูกก็อายุ 20 ปี"