กองปราบรวบแก๊งวัยเกษียณอาละวาด “ตกโฉนด” ทั่วภาคกลาง
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น. วันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปราม โดย พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รองผบก.ป. , พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รองผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม รอง ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส รองผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ รอง ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.ณฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.2 บก.ป. พ.ต.ต.ปกรษณ์เกียรติ พงษ์ธนนิธิกร สว.กก.2 บก.ป. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายเจริญ เกตุทอง อายุ 63 ปี นางสมพร นิธินรเศรษฐ อายุ 61 ปี และ นางธนิสสรณ์ ทิพยกุลวิสิฐ อายุ 62 ปี ข้อหา“ร่วมกันพยายามฉ้อโกง ลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นส่องโจร”
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก นายเจริญ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้มาหาผู้เสียหายในพื้นที่ จ.อ่างทอง และถามหาซื้อที่ดิน และชวนผู้เสียหายเดินทางไปดูที่ดินที่ซื้อ และได้พบกับเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นทีมงานของกลุ่มคนร้าย ก่อนจะตกลงซื้อขายที่ดินกัน แต่ที่ดินดังกล่าวยังติดจำนองไว้ที่ร้านทอง จะต้องใช้เงินสดเพื่อไถ่จำนอง โดยคนร้ายอ้างว่ามีเงินสดไม่เพียงพอกับการไถ่จำนอง และยังขาดอีกจำนวน 70,000 บาท หากการซื้อขายสำเร็จจะให้ค่านายหน้าแก่ผู้เสียหาย 200,000 บาท จากนั้นผู้ต้องหาได้พาผู้เสียหายไปถอนเงินที่ธนาคารกรุงไทย หลังจากนั้นได้พาผู้เสียหายไปถ่ายเอกสารและได้หลบหนีไป โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เกษไชโย
ส่วน นางสมพร และ นางธนิสสรณ์ ผู้ต้องหารายที่ 2 กับ รายที่ 3 ก็มีพฤติการณ์เช่นเดียวกันกับนายเจริญ โดยจะหาเหยื่อและถามหาซื้อที่ดิน ก่อนชวนเหยื่อซึ่งตกเป็นผู้เสียหายเดินทางไปดูที่ดินที่ซื้อ และได้พบกับเจ้าของที่ดินซึ่งก็เป็นทีมงานของกลุ่มคนร้าย จากนั้นตกลงซื้อขายที่ดินกัน แต่ที่ดินดังกล่าวยังติดจำนองไว้จะต้องใช้เงินสด เพื่อไถ่จำนอง โดยคนร้ายอ้างว่ามีเงินสดไม่เพียงพอกับการไถ่จำนอง ยังขาดอีกจำนวน 300,000 บาท ถ้าหากการซื้อขายสำเร็จจะให้ค่านายหน้าแก่ผู้เสียหาย 400,000 บาท จากนั้นผู้ต้องหาได้พาผู้เสียหายไปถอนเงินที่ธนาคาร หลังจากนั้นได้พาผู้เสียหายไปถ่ายเอกสารและได้หลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาหลบมาพักอาศัยอยู่ในหมู่ที่ 7 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จับกุมจึงได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ จนกระทั่งวันที่ 17 พฤษภาคม เวลาประมาณ 12.15 น. ได้สังเกตเห็น นายเจริญ เดินออกมาจากภายในบ้านและมาหยุดยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. วันเดียวกัน ได้สังเกตเห็น รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น วีออส สีฟ้า คันหมายเลขทะเบียน กต 6089 ปทุมธานี ขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าหลังดังกล่าว ฯ เมื่อรถยนต์จอดสนิทแล้ว มี นางสมพร และ นางธนิสสรณ์ ได้ลงมาจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. จึงได้ทำการจับกุม อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ยังให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายเจริญ ส่งสภ.เกษไชโย จ.อ่างทอง ส่วน นางสมพร และ นางธนิสสรณ์ ควบคุมตัวส่ง สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดย นาย เจริญ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ จ.276/2560 ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 “ร่วมกันพยายามฉ้อโกง ลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นส่องโจร” เหตุเกิดท้องที่ สภ.เกษไชโย นอกจากนี้ยังมีหมายจับติดตัวอีก 2 หมาย คือ หมายจับศาลจังหวัดสิงห์บุรี ที่ จ.72/2560 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง และ หมายจับศาลแขวงสระบุรี ที่ 524/2560 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง
นางสมพร มีหมายจับ 3 หมายจับ ได้แก่ หมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.261/2555 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 “ร่วมฉ้อโกงทรัพย์” เหตุเกิดพื้นที่ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ,หมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.109/2556 ลงวันที่ 12 มีนาคม 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น และ หมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 344/2560 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่วน นางธนิสสรณ์ ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.262/2555 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 “ร่วมฉ้อโกงทรัพย์” เหตุเกิดพื้นที่ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์