'กาละแมร์' ปัดเอี่ยวโฆษณายาสีฟันเท็จ

'กาละแมร์' ปัดเอี่ยวโฆษณายาสีฟันเท็จ

"กาละแมร์-บูม" ปัดไม่เกี่ยวข้องโฆษณายาสีฟันเท็จ ถูกแอบออ้างชื่อ-รูป แจ้งความเอาผิดทางกฎหมาย ด้านทันตแพทยสภาระบุข้อความโฆษณา ไม่มีหลักฐานวิชาการรองรับ เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 พ.ค. ที่สถาบันทันตกรรม กระทรวงสาธารณสุข ผศ.(พิเศษ)ทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ เลขาธิการทันตแพทยสภา ทพ.ธงชัย วชิรโรจน์ไพศาล อุปนายกทันตแพทยสภา พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) น.ส.พัชรศรี เบญจมาศ หรือกาละแมร์ พิธีกรช่อดังช่อง 3 และน.ส.สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง หรือบูม พิธีกรรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีมีผู้ประกอบธุรกิจโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณยาสีฟันเข้าข่ายหลอกลวงและให้ข้อมูลเท็จ โดยมีการนำชื่อและภาพของพิธีกรช่อง 3 ทั้ง 2 คนไปอ้างอิงในสื่อโฆษณายาสีฟันยี่ห้อที่บรรจุภัณฑ์เป็นหลอดสีเหลืองทองกล่องสีน้ำตาล

กาละแมร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทราบว่าถูกแอบอ้างชื่อและภาพในการโฆษณายาสีฟันดังกล่าวจากการที่มีคนมาสอบถามคุณแม่ที่บ้านว่าลูกสาวขายยาสีฟันนี้หรือไม่และสามารถซื้อได้ที่ไหน เมื่อทราบเรื่องก็ตกใจมาก เข้าไปตรวจสอบในเวบไซต์ที่มีการโฆษณาพอเห็นข้อความที่ใช้อวดอ้างและมีการแอบอ้างชื่อตัวเองและรายการผู้หญิงถึงผู้หญิงว่าใช้ยาสีฟันนี้แล้วไม่ต้องไปพบทันตแพทย์ ซึ่งสิ่งที่เสียใจที่สุด คือจะทำให้ประชาชนที่ได้อ่านข้อความแล้วหลงเชื่อไปซื้อมาใช้ไม่รู้ว่าจะเกิดอันตรายกับสุขภาพช่องปากแค่ไหนอย่างไร ที่ผ่านมาได้พยายามติดต่อไปยังเวบไซต์ดังกล่าวทุกช่องทางให้หยุดการกระทำดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงอยากฝากถึงประชาชนอย่าหลงเชื่อการโฆษณายาสีฟันนี้ที่มีการแอบอ้าวชื่อกาละแมร์

น.ส.สุภาพร อีกหนึ่งพิธีกรที่ถูกนำรูปมาใช้ในการโฆษณายาสีฟันนี้ด้วย กล่าวว่า ขณะนี้ช่อง 3 และรายการผู้หญิงถึงผู้หญิงได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการรวบรวมหลักฐานและแจ้งความดำเนินคดีกับเวบไซต์และผู้ประกอบการยาสีฟันดังกล่าว ซึ่งในส่วนที่เป็นเวบไซต์จากต่างประเทศอาจดำเนินการยากแต่เวบไซต์ภายในประเทศขอให้ระงับและหยุดการแชร์โฆษณาดังกล่าวแล้วและจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผศ.(พิเศษ) ทพ. ไพศาล กล่าวว่า จากที่ทันตแพทยสภาตรวจสอบพบมีการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์โดยเผยแพร่ข้อมูลสินค้าประเภทยาสีฟัน อวดอ้างสรรพคุณถึงผลลัพธ์จากการใช้ใน 1 สัปดาห์ทำให้ฟันขาวขึ่นอย่างเห็นได้ชัด ครบเหลืองหายไปและหลังจากการใช้ 1 เดือนฟันผุและหินปูนหายไปทั้งฟันยังขาวขึ้นอีก 4-5 ระดับ ทันตแพทยสภาขอยืนยันว่าไม่มีข้อมูลทางวิชาการใดมาสนับสนุนว่ายาสีฟันประเภทใดที่จะมีประสิทธิภาพสามารถซ่อมแซมฟันที่ผุและทำให้หินปูนสลายเองภายใน 1เดือน รวมถึงการทำให้ฟันขาวขึ้น4-5ระดับโดยไม่ต้องรับการบูรณะหรือทำทันตกรรมจากทันตแพทย์ ซึ่งหากประชาชนหลงเชื่อไปใช้ยาสีฟันดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพช่องปาก เพราะยังไม่ทราบว่าส่วนประกอบในยาสีฟันดังกล่าวมีอะไรที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ โดยทันตแพทยสภาจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป

“การระบุข้อความโฆษณาดังกล่าวในทางวิชาการไม่สามารถเป็นไปได้อย่างแน่นอน จึงเข้าข่ายการโฆษณาหลอกลวงผู้บริโภค ไม่เพียงแต่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อและเกิิดความเข้าใจผิดเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้ประชาชนสูญเสียการดูแลฟันที่ดี จนส่งผลต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาวได้ ทันตแพทยสภาจึงได้ประสานไปยังสคบ.เพื่อดำเนินคดีกับผู้ประกอบการธุรกิจและผู้โฆษณาอวดอ้างข้อความยาสีฟันนี้”ผศ.(พิเศษ)ทพ.ไพศาลกล่าว

พ.ต.อ.ประทีป กล่าวว่า สคบ.ได้ตรวจสอบยาสีฟันยี่ห้อดังกล่าว พบว่าเข้าข่ายเป็นเครื่องสำอางควบคุมพิเศษ เพราะมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ที่มีผลต่อสุขภาพ จึงเข้าข่ายกฎหมายเฉพาะเป็นอำนาจหน้าที่ในการควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แต่หากเป็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกฎหมายเฉพาะควบคุมกำกับแล้วมีการโฆษณาที่เข้าข่ายลักษณะที่เป็นไปไม่ได้หรือเป็นเท็จก็จะดำเนินการเอาผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มีโทษไม่เกินจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเบื้องต้นกรณียาสีฟันนี้เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ ก็จะต้องตรวจสอบต่อไปว่าใครเป็นผู้ประกอบการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการนำชื่อยี่ห้อยาสีฟันดังกล่าวไปตรวจสอบการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากฐานข้อมูลอย. ไม่พบการอนุญาตขึ้นทะเบียนแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตามพ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ความผิดฐานโฆษณาข้อความที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง มีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ