Retail Market Monitor (17 พ.ค.61)

การอ่อนตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินเหรียญสหรัฐฯจะช่วยลดแรงกดดันต่อหุ้นโลกในระยะสั้น ขณะที่ประเด็นความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีคาดมีผลกระทบต่อความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงจำที่กัด เรายังเชื่อว่าธีมการลงทุนหลักคือสินทรัพย์ที่สามารถชนะเงินเฟ้อ (inflation hedged asset) ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงน้ำมันดิบในรอบนี้ ยังคงปรับตัวขึ้นเด่นกว่าสินทรัพย์อื่น

หุ้นไทยผันผวนระหว่าง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรและแนวโน้มผลการดำเนินงาน ทั้งนี้การปรับฐานของ SET ในช่วงก่อนหน้าทำให้ค่าเฉลี่ย PE ลดลง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของผลการดำเนินงาน (Earnings yield) เมื่อเทียบกับพันธบัตร (Bond yield) เริ่มเข้าสู่จุดที่น่าสนใจ (1750 จุด) แม้โอกาสของการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่มากกว่าตลาดคาดอีก 1-2 ครั้ง อาจกดดันตลาดให้มีความเสี่ยงทางลงราว 50 จุด ต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้ง (25bps) แต่ในทางกลยุทธ์เราประเมินกรอบแนวรับสำหรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนที่ 1700-1720 จุด  ทั้งนี้เรามองหุ้นที่ราคายัง laggard, มีปัจจัยบวกสนับสนุน หรือผ่านจุดที่แย่สุดไปแล้ว จะเป็นกลุ่มที่มีโอกาส outperform ตลาดได้ดีในช่วงนี้ อาทิ BANPU, BPP, SAPPE, GUNKUL, MONO, STEC, CK, AMATA, WHA, ERW

กลุ่มพลังงาน หุ้นบางตัวอย่าง PTTEP เริ่มปรับขึ้นเกินราคาเหมาะสมทางพื้นฐานที่ 134 บาท (อิงค่าเฉลี่ยน้ำมันที่ 70 เหรียญ) หากเราปรับสมมติฐานเป็น 80 เหรียญฯ ราคาเหมาะสมอาจเพิ่มเป็น 150 บาท แต่กรอบ 134-150 บาท คือพื้นที่ของการเทรด ที่เหมาะสำหรับผู้ที่บริหารความเสี่ยงได้เท่านั้น

Investment Theme เลือกเก็งกำไรรายตัวแบบตัดขาดทุน // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) IVL 2) BANPU 3) PTT // กลุ่มธนาคาร ชอบได้แก่ BBL, KTB, SCB // หุ้นกลุ่มไฟฟ้า BCPG, BGRIM, GULF*, EA // ผลการดำเนินงานผ่านจุดแย่สุด BANPU, BPP*, SAPPE, GUNKUL*, MONO*

ภาพรวมกลยุทธ์: กรอบการแกว่งระยะสั้นปรับลดลงเป็น 1740-1773 การเก็งกำไรยังควรระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ BANPU, IRPC / เก็งกำไร MONO* (เป้า 3.50 ตัดขาดทุน 2.96), GUNKUL* (เป้า 3.50 ตัดขาดทุน 2.96)

แนวรับ 1740 / แนวต้าน : 1761 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

ประเด็นการลงทุน

กนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.50% ตามคาด – กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ตามคาด ประเมินเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนของภาคการส่งออกและท่องเที่ยว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมคาดเศรษฐกิจไทยปี 61 มีโอกาสขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้จากเดิมที่ระดับ 4.1% แนะติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 1/61 ของสนช. ในวันจันทร์ที่ 21 พ.ค.นี้

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัว 9.38% – จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน เม.ย. อยู่ที่ 3.092 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.38%yoy ซึ่งก่อให้เกิดรายได้ 157.43 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 12.52%

'ดับบลิวเอชเอ'ลุยนิคมอุตฯระยอง - ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จับมือ ไออาร์พีซี ตั้งบริษัทลูก ลุยนิคมอุตสาหกรรมในระยอง ทุนจดทะเบียน 650 ล้านบาท 2,152 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จไตรมาส 3

MSCI –Global Index เข้า (+) LH ; ออก (-) KCE, SCC-F // Small Cap Index เข้า (+) DDD, KCE, MONO, PRM, THG, TPIPL ; ออก (-) BIG, EASTW, FSMART, GL, KTC, LHFG, MALEE, SAMART, TSE // เพิ่มน้ำหนักใน CPF, EA, SCC // ลดน้ำหนักใน PTT (มีผลสิ้น 31 พ.ค.)

SGP (Not rated) – ซื้อขายที่พาร์ใหม่ 0.50 บาท วันนี้ จากเดิมพาร์ 1 บาท

 

ประเด็นติดตาม: 21 พ.ค. – TH สนช.ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 1/61 / 23 พ.ค. – TH ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาพ.ร.บ.คัดเลือก ส.ส. ส.ว. / 12 มิ.ย. – การหารือทรัมป์-คิม จอง อึน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)