ทปอ.ไม่ถอย เดินหน้าระบบทีแคส ชี้ลดวิ่งรอกสอบ-ค่าใช้จ่าย 2 หมื่นบาท

ทปอ.ไม่ถอย เดินหน้าระบบทีแคส ชี้ลดวิ่งรอกสอบ-ค่าใช้จ่าย 2 หมื่นบาท

ทปอ.ขอโทษทีแคสรอบ3 เกิดปัญหา ชี้ไม่นิ่งนอนใจ ปรับปรุงระบบ ตั้งคณะทำงานใหม่ 2ชุด ย้ำไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เผยขณะนี้มีผู้สมัครทีแคสรอบ3 แล้ว 150,382 ราย สามารถสมัครได้ถึง19 พ.ค.นี้ ฝากทุกคนใจเย็น ย้ำลดค่าใช้จ่าย 2 หมื่นบาท

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.61 นายสุชัชวีร์ สุวรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยแถลงข่าวรายงานการความคืบหน้าการรับสมัครการรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา หรือทีแคส รอบ 3 ระบบรับตรงร่วมกัน ว่าต้องขอโทษกับกรณีเว็บรับสมัครทีแคสรอบ 3 ล่ม ซึ่งทปอ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้มีการปรับปรุงระบบทางเข้า หรือการล๊อกอินให้รองรับได้มากขึ้น 3 เท่าตัว เพิ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งระบบฐานข้อมูล ระบบการเชื่อมโครงข่าย ระบบการจัดการเว็บไซต์ และด้านสถาปัตยกรรมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ประจำอยู่ศูนย์คอมพิวเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ระบบทีแคส และการมาแถลงข่าวครั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีการใช้งานได้เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้มีผู้สมัครแล้ว 150,352 ราย อีกทั้งตอนนี้ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาใหม่ 2 ชุด คือ คณะทำงานพัฒนาปรับปรุงระบบไอที กับคณะทำงานพัฒนาระบบทีแคสทั้งหมด เพื่อประสิทธิภาพการจัดการที่ดี

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่าสำหรับกรณีที่มีผู้ปกครองเรียกร้องให้ยกเลิกระบบทีแคส เนื่องจากมีปัญหาเว็บล่มนั้น ระบบคงเดินหน้าต่อไป เพราะการที่มหาวิทยาลัยต่างๆ มีการปรับระบบเดิมมาเป็นระบบทีแคส ก็เป็นไปตามข้อเรียกร้องจากผู้ปกครอง เนื่องจากระบบเดิมส่งผลกระทบต่อผู้ปกครอง ทำให้ผู้ปกครองเสียเวลางาน เด็กต้องวิ่งรอกสอบ และเสียค่าสมัครจำนวนมาก โดยเฉพาะในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครเข้ามหาวิทยาลัย มีการระบุว่า เด็กต้องเสียค่าใช้จ่าย 70,000 บาท แต่ระบบใหม่ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพียง 20,000 บาท อีกทั้งครูและผู้บริหาร ระบุว่าระบบเดิมทำให้เด็กทิ้งห้องเรียนเมื่อสอบติดแล้วทั้งที่การเรียนม.ปลายเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิต หรือเด็กเก่งสอบติดหลายที่ก่อนจะสละสิทธิ์ใกล้เปิดเทอม ทำให้หลายคนเสียโอกาส ทีแคสจึงเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ จึงอยากให้ทุกคนใจเย็นๆ

“ปัญหาทีแคสที่เกิดขึ้นในปีนี้ เป็นปัญหาทางด้านเทคนิค และสามารถแก้ไขได้ระดับหนึ่ง แต่ต่อไปในอนาคตระบบทีแคส ต้องมีการปรับปรุง เพื่อให้เหมาะสมกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป อยากให้ทุกฝ่ายให้เวลากับระบบดำเนินการต่อไป” ประธานทปอ.กล่าว

ทั้งนี้ ส่วนกรณีที่มีการรับจ้างทำแฟ้มสะสมงานในรอบที่ 1 นั้น ขอเตือนนักเรียนอย่าทำ เพราะทปอ.สามารถตรวจสอบได้แน่นอน 100% ว่าใครทำเองหรือรับจ้างทำ เนื่องจากคนรับจ้างทำก็รับจ้างหลายคน และชิ้นงานเหมือนๆ กัน ที่สำคัญถ้านักเรียนรับจ้างทำจะทำให้ เสียสิทธิ์ สอบตก โรงเรียนก็จะเดือนร้อนด้วย อย่างไรก็ตาม การสมัครรอบที่ 1 และ 2 มีจำนวนผู้ยืนยันสิทธิ์แล้ว 125,032 ที่นั่ง และรอบที่ 3 กำหนดจำนวนรับอีก 100,265 ที่นั่ง โดยนักเรียนสามารถสมัครได้ถึงวันที่ 19พ.ค. เวลา23.59 โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปสมัครได้ที่ http://app.cupt.net/tcas/round3.php ซึ่งนักเรียนไม่ต้องกังวล และทปอ.ยังกำหนดให้มีการรับสมัครอีกจำนวน 2 รอบ คือรอบ รอบที่ 4 การรับสมัครแอดมิชชั่น จำนวน 80,971 ที่นั่ง ภายในเดือนมิ.ย. และ รอบที่ 5 การรับตรงอิสระภายในเดือนก.ค.

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อไปว่า ทปอ. ยังคงมีปณิธานสร้างโอกาสในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยให้เด็กไทยได้มากที่สุด จึงมีการรับถึง 5 รอบ โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อีกทั้งการสอบรับตรงในทีแคสพร้อมกันนี้ มีจุดประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ให้น้องๆและผู้ปกครองไม่ต้องไปวิ่งรอกสอบหลายครั้งหลายที่เหมือนในอดีต มาเป็นการรับพร้อมกันทีเดียว จะนำบทเรียนที่เกิดขึ้น นำไปปรับปรุงและพัฒนา ระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยให้เหมาะสมกับบริบทของความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคม

ทั้งนี้ สำหรับนักเรียนที่ได้รับผลกระทบในกรณีมีการซื้อตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก เนื่องจากมั่นใจว่าสอบติดและจะไปสัมภาษณ์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ตามปฎิทินเดิมของทปอ.นั้น ขณะนี้ทปอ.มีข้อมูลของผู้ที่ได้รับผลกระทบเรียบร้อยแล้ว โดยการแก้ไขปัญหากจะดำเนินการเป็นรายกรณีไป ซึ่งทางทีมงานทปอ.จะแจ้งกับนักเรียนและผู้ปกครองโดยตรง คาดว่าไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม หากนักเรียนมีปัญหา หรือได้รับผลกระทบอย่างไร ขอให้ติดต่อมายังทปอ. และก่อนที่จะมายื่นคำร้องใดๆ ขอให้ตรวจสอบแต่ละสาขาก่อนว่ามีการเลื่อนตารางการรับสมัคร หรือกำหนดการต่างๆ หรือไม่ เพราะบางสาขาอาจไม่จำเป็นต้องเลื่อน เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา และเกิดปัญหาขึ้นภายหลัง

นายสุชัชวีร์ กล่าวอีกว่า การรับตรงรอบที่ 3 นี้ ยังมีการเปิดรับนักศึกษาจำนวน 16 หลักสูตร ประจําปีการศึกษา 2561 ภายใต้โครงการ หลักสูตรบัณทิตพันธุ์ใหม่เพื่อประเทศไทย 4.0 เนื่องด้วยนโยบายเร่งด่วนของชาติด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อสร้างบัณฑิตที่ตอบโจทย์และมีความพร้อมในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพทันทีเมื่อสำเร็จการศึกษา ในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งมีนักเรียนสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ ทั้งนี้ นักเรียนสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ 02-354-5150-2 หรือเข้าไปที่ https://www.facebook.com/cuptthailand/