4บิ๊กธุรกิจร่วมทุน 'บาเนีย'

4บิ๊กธุรกิจร่วมทุน 'บาเนีย'

4 ธุรกิจใหญ่ "กรุงศรี ปตท.เอสซีจี และ500 TukTuks" ร่วมลงทุนใน “บาเนีย” บริษัทฟินเทคที่พัฒนา Big Data ด้านอสังหาริมทรัพย์หวังผลักดันให้เป็นยูนิคอน หรือกิจการที่มีมูลค่าเกิน1พันล้านดอลลาร์สหรัฐรายแรกของไทย

นางสาวอัญชนา วัลลิภากร ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนาเกี่ยวกับ Big Data อสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของ Marketplace และ Data Analytics ในนาม Baania.com เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจาก 4 บริษัทขนาดใหญ่ ได้แก่ กรุงศรี ฟินโนเวต ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) แอดเวนเจอร์ ในเครือเอสซีจี รวมถึง 500 TukTuks เวนเจอร์ แคปิตอลในกลุ่ม 500 Startups จากซิลิคอน วัลเลย์ สหรัฐอเมริกาผู้ร่วมทุนเดิม ในการลงทุนรอบใหม่เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจในอนาคต

หลังจากการระดมทุนครั้งแรกในปี 2560 บริษัทได้พัฒนาฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้านและผู้ประกอบการที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจลงทุน โดยมีข้อมูลโครงการครอบคลุม 15 จังหวัด ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก มากกว่า 13,622 โครงการ มีบ้านอยู่ในระบบ 2,265,214 หลัง และแบบบ้าน 27,291 แบบ และมีผู้เข้าใช้งานในระบบกว่า 4,000,000 ราย ทำให้มีข้อมูลในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคกว่า 700 ล้าน Data Point

“การระดมทุนในปี 2561 บาเนียจะขยายการพัฒนาฐานข้อมูลโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ครบ 26 จังหวัดหลักทั่วประเทศ เพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลในภาคใต้ ภาคตะวันตก และเพิ่มผู้ใช้บริการในระบบเป็น 7,000,000 คน พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เช่น Search by Lifestyle ระบบการค้นหาที่อยู่อาศัยตามพฤติกรรมการใช้ชีวิต Bestimate ระบบประมาณราคาบ้าน และ Baania Pulse: Deep Social Listening สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์"

นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือกรุงศรี กล่าวว่า “การลงทุนครั้งนี้นับเป็นการร่วมลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งขององค์กรชั้นนำของไทย โดยกรุงศรี ฟินโนเวต นำทีมร่วมลงทุน เพราะบาเนียมีศักยภาพ ความสามารถในการแข่งขัน และความเชี่ยวชาญที่ชัดเจนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้กรุงศรีสามารถต่อยอดข้อมูลและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อบ้านให้สามารถตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อไปในอนาคต

"การร่วมลงทุนในครั้งนี้ของ4พันธมิตรคิดเป็นมูลค่าเกือบ100ล้านบาท นอกจากเป็นกิจการที่มีโอกาสเติบโตสูง มีโอกาสที่จะเป็นยูนิคอน หรือสตาร์ทอัพที่มีมูลค่า1พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ3.2หมื่นล้นบาทเป็นรายแรกของประเทศแล้ว กรุงศรียังสามารถใช้ประโยชน์ต่อยอดเรื่องสินเชื่อออนไลน์รวมถึงการพัฒนาระบบประเมินราคาสินทรัพย์ ซึ่งต่อไปอาจจะไม่จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ลงไปประเมิน แต่ใช้การประมาณราคาผ่านช่องทางนี้ช่วยลดต้นทุนทั้งของธนาคารและผู้กู้ได้ คาดว่าจะนำเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาเข้าสู่แซนด์บ็อกซ์ได้ในช่วงต้นปีหน้า"