'อัศวิน' ลั่นถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย กทม.ก็จะไม่เข้าไปยุ่ง

'อัศวิน' ลั่นถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย กทม.ก็จะไม่เข้าไปยุ่ง

"อัศวิน" ส่งสัญญาณถอย กรณี กทม.มีแนวคิดจะเข้าบริหารหอศิลป์ หลังโดนค้านหนัก ลั่น "ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย กทม.ก็จะไม่เข้าไปยุ่ง"

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.61 จากกรณีที่ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีแนวคิดเตรียมนำหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันบริหารโดยมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กลับมาบริหารเอง และก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์แสดงความไม่เห็นด้วย และล่าสุดมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มศิลปิน จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อขอให้ปลด พล.ต.อ.อัศวิน ออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.

ล่าสุด พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวิน ยืนยันไม่เคยคิดทำลายสถานที่แสดงศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศ เพียงแต่ต้องการพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุดเท่านั้น แต่หากประชาชนไม่เห็นด้วยก็จะไม่เข้าไปยุ่ง

 

'อัศวิน' ลั่นถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย กทม.ก็จะไม่เข้าไปยุ่ง

"จากการที่มีกระแสข่าวในทำนองว่า กทม.จะนำพื้นที่ในหอศิลป์ฯทั้งหมดไปทำอย่างอื่น?หรือ แม้กระทั่งนำไปทำห้างสรรพสินค้า!? รวมไปถึงแคมเปญออกมา คัดค้านการที่กทม.จะเข้ามาบริหารจัดการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครด้วยตนเองนั้น

ผมคงต้องตอบว่า กทม. ไม่เคยคิด และไม่มีทางที่จะทำลายสถานที่แสดงศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศเรา เพียงแต่เราต้องการพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันพื้นที่บางส่วนของหอศิลป์ฯ ยังไม่ได้มีการใช้ประโยชน์ เราต้องการนำพื้นที่เหล่านั้นมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ หนึ่งในแนวทางที่อยากจะปรับปรุงก็คือ การนำพื้นที่เหล่านั้นมาปรับเป็นให้เป็นสถานที่ที่ทุกคนได้เข้ามาใช้ สร้างสรรค์งานศิลป์ ทำงาน พบปะ และ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือที่เรียกกันว่า co-working space ในส่วนนิทรรศการก็ยังจะต้องใช้เพื่อแสดงงานศิลปะและวัฒนธรรมอย่างเดิม

แต่การที่กทม.จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่ส่วนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์นั้น อาจติดด้วยระเบียบและกฎหมายการมอบกิจการให้มูลนิธิ กทม.จึงมีเป้าหมายที่จะพัฒนาพื้นที่เหล่านั้น เพื่อให้ทุกคนมีพื้นที่ที่ให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันและดึงดูดให้ประชาชนสนใจงานศิลป์มากขึ้น สำหรับแนวทางการพัฒนานั้นอาจมีการดึงผู้ที่เกี่ยวข้องและมีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญ มาช่วยพัฒนา

ผมเชื่อมั่นว่า ศิลปะเป็นเรื่องของอิสระทางความคิดและจินตนาการ ศิลปะเป็นสิ่งจรรโลงใจหาใช่เพื่อวัตถุประสงค์ใด และ สถานที่แสดงศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าแห่งนี้จะต้องยังคงอยู่เพื่อประชาชนทุกคนครับ

สุดท้ายนี้ ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย กทม.ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพัฒนาในพื้นดังกล่าวครับ"