รวบหนุ่มร่วมก๊วนฆ่าผู้ใหญ่บ้าน อุทัยฯ

ที่สน.ท่าพระ วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ต.อ.เดชา พรมสุวรรณ์ ผกก.สน.ท่าพระ พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส รอง ผกก.ป.สน.ท่าพระ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ใหม่บุญมี สวป.สน.ท่าพระ ร.ต.อ.สุมิตร สัมพันธ์อภัย รอง สวป.สน.ท่าพระ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ท่าพระ ร่วมกันจับกุมตัวนายสราวุฒิ เรืองตาตะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/3 ม.11 ต.บ่อยาง อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ 26/2560 ลงวันที่ 7 มี.ค.2560 โดยสามารถจับกุมได้ที่จุดตรวจจุดสกัด ปากซอยรัชดาภิเษก19 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.

สืบเนื่องจากกรณีกลุ่มคนร้ายยิงนายบุญจันทร์ ชาลีนิวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ลานสัก จ.อุทัยธานี จนทางตำรวจ และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยอุทัยธานี สามารถจับกุมนายธเนศ วงษ์เนตร อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาได้ เมื่อวันที่7 มี.ค.60ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวได้ให้การซักทอดว่า เจ้าตัวเป็นคนยิงผู้ตาย มีนายบุญยิ่ง จันทร อายุ 60 ปี เป็นผู้รับงานและมาว่าจ้างให้ลงมือ รวมไปถึงคดีฆ่านายจำเนียน มาหัวเขา กับพวกคดีนี้มี นายบุญยิ่ง เป็นผู้รับงานและมาว่าจ้างนายธเนศ ให้ลงมือกระทำความผิด โดยมีผู้ต้องหารายนี้ และ นายมนัส หว่างจีน ทำหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้ครบ เหลือเพียงนายสราวุฒิที่ยังคงหลบหนี ส่วนมูลเหตุมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น

จนกระทั่ง เมื่อเวลา 14.15 น. ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ตั้งจุดตรวจจุดสกัดอยู่ที่บริเวณปากซอย รัชดาภิเษก19 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. พบนายสราวุฒิ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า สีดำ คันหมายเลขทะเบียน 4กฮ-3117 กทม. ผ่านมา ลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย โดยเมื่อเห็นตำรวจ นายสราวุฒิ มีอาการตกใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เรียกให้หยุดรถและขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น ปรากฎว่า ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เมื่อทำการตรวจสอบข้อมูลของนายสราวุฒิ จากฐานระบบข้อมูลอาชญากรรม ปรากฏว่า นายสราวุฒิ เป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีนี้ จึงทำการควบคุมตัวสอบสวนที่ สน.ท่าพระ

เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง จึงทำการแจ้งข้อหา“ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , มี และใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่มีชนิดและขนาดตามกฎกระทรวงที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ใช่กรณีที่ต้องมีอาวุธปืนติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแกพฤติการณ์” และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลานสัก จว.อุทัยธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป