ลมกระโชกแรงต้นไทรอายุกว่า 100 ปี ล้มทับรถพังยับ

ลมกระโชกแรงต้นไทรอายุกว่า 100 ปี ล้มทับรถพังยับ

ฝนกระหน่ำ ลมกระโชกแรง ต้นไทรอายุกว่า 100 ปี ล้มทับรถพังยับ-เสาไฟฟ้าหัก 2 ต้น โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม  สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร รับแจ้งเหตุต้นไม้ใหญ่ล้มทับถนนกีดขวางการจราจรบริเวณหน้าสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ถนนพิชัย แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายทำนุ โรหิตาภิรมย์ หัวหน้าสถานีดับเพลิงพญาไท และเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ เขตดุสิต

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน พบต้นไทรอายุกว่า 100 ปี ล้มทับรถสามล้อเครื่อง หมายเลขทะเบียน สข 301 กรุงเทพมหานคร จนเสียหายพังยับเยินหมดทั้งคัน พร้อมทั้งกีดขวางถนนทุกช่องทาง นอกจากนี้ยังส่งผลให้เสาไฟฟ้าหักโค่นรวม 2 ต้น สายไฟระโยงระยางไปพาดกับรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สาย 70 วิ่งระหว่างประชานิเวศน์ 3 - สนามหลวง หมายเลขทะเบียน 12-5818 กรุงเทพมหานคร ทางเจ้าหน้าที่ต้องกันผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่บริเวณโดยรอบเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย

นายทำนุ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานกับการไฟฟ้านครหลวงเพื่อทำการตัดไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับบ้านเรือนประชาชนหลายหลังคาเรือน เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าต้นไทรที่โค่นลงมานั้นอยู่ในพื้นที่ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยก่อนล้มทับลงมากีดขวางการจราจรทุกช่องทาง อีกทั้งยังเป็นเหตุให้รถได้รับความเสียหาย 2 คัน และเสาไฟฟ้าหักโค่นรวม 2 ต้น โดยไม่มีผู้ใดได้รับอาการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแม้แต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้จะประสานไปยังสำนักงานเขตดุสิต บางโพ และพญาไท เพื่อทำการรื้อถอนออกจากพื้นผิวการจราจรเนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่มีอยู่ใช้สัญจรเป็นจำนวนมาก

นายสมเกียรติ เอมจิตต์ อายุ 59 ปี กล่าวว่า ตนเป็นโชเฟอร์รถสามล้อเครื่องคันดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุตนจอดรถไว้ข้างทางเพื่อรอรับผู้โดยสารตามปกติ จากนั้นฝนได้โหมกระหน่ำตกลงมาอย่างหนักพร้อมทั้งมีลมกระโชกแรงจึงตัดสินใจทิ้งรถก่อนวิ่งไปหลบฝนที่สะพานเทพหัสดินซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ก่อนพบว่าต้นไทรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยโค่นล้มทับรถตุ๊กๆตนเข้าอย่างจังจนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้โดยปกตินั้นเพื่อนรวมอาชีพตนจะมาจอดรถเพื่อรอรับผู้โดยสารอยู่ประมาณ 4-5 คัน แต่ครั้งนี้ได้ออกไปส่งผู้โดยสารกันหมดซึ่งถือว่าโชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับอาการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ด้านนายโกศล ดาวน้อย เล่าว่า ตนเป็นโชเฟอร์รถประจำทางโดยก่อนเกิดตนขับรถมาจากสนามหลวงเพื่อไปส่งผู้โดยสารที่มาใช้บริการโดยมุ่งหน้าไปยังประชานิเวศน์ 3 จนกระทั่งขับมาถึงช่วงจุดเกิดเหตุฝนตกลงมาอย่างหนักจนเป็นเหตุให้กิ่งไม้ข้างทางบริเวณถนนพิชัย หักโค่นลงมาตลอดทั้งเส้นทางตนจึงขับรถออกเลนขวาสุดอย่างช้าๆ ก่อนพบว่าต้นไทรได้โค่นลงมาล้มทับกีดขวางถนนอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งรั้งสายไฟที่อยู่ข้างทางจนมาพาดกับรถประจำทางจนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารต่างพากันกรีดร้องด้วยความตกใจ โชคดีที่ตนมองเห็นก่อนจึงสามารถเหยียบเบรคเพื่อหยุดรถได้ทันมิเช่นนั้นอาจส่งผลให้มีผู้ได้รับอันตราย