นายกฯ ห่วงใยปัญหาสภาพคล่องผู้มีรายได้น้อยช่วงใกล้เปิดเทอม

นายกฯ ห่วงใยปัญหาสภาพคล่องผู้มีรายได้น้อยช่วงใกล้เปิดเทอม

นายกฯ ห่วงใยปัญหาสภาพคล่องผู้มีรายได้น้อยช่วงใกล้เปิดเทอม ย้ำรัฐมีแหล่งทุนเป็นทางเลือกหลากหลาย เตือนอย่านำความเดือดร้อนประชาชนเชื่อมโยงการเมือง แนะคนไทยสร้างวินัยการออม

เมื่อวันที่ 12 พ.ค.61 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มีปัญหาสภาพคล่องช่วงใกล้เปิดเทอม ว่า รัฐบาลห่วงใยและมีทางเลือกให้ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องไปใช้บริการสินเชื่อนอกระบบ

ทั้งโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินของ ธ.ก.ส. และธ.ออมสิน รายละไม่เกิน 50,000 บาท โครงการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) รายละไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งมีประชาชนไปใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และยังให้สถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศเตรียมเงินให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน และปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดภาระผู้ปกครอง ในระหว่างวันที่ 1 เม.ย.– 31 พ.ค. 61 โดยหากเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท จะคิดดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.25 ต่อเดือน ส่วนเงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน

นายกรัฐมนตรียังให้ความสนใจข่าวที่เกษตรกรนำหัวรถไถไปจำนำที่โรงรับจำนำของเทศบาลเมืองชุมแสง จ.นครสวรรค์ และมีคนฉวยโอกาสนำไปอ้างว่า รัฐบาลบริหารงานไม่ดีจึงทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ โดยนายกฯ ไม่อยากให้นำความเดือดร้อนของประชาชนไปเชื่อมโยงกับประเด็นการเมือง หากจะวิพากษ์วิจารณ์ก็ขอให้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง

“การนำทรัพย์สินไปจำนำถือเป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชนที่ต้องการใช้เงินฉุกเฉิน ซึ่งเกิดขึ้นมานานแล้ว และช่วงใกล้เปิดเทอมจะมีปริมาณการใช้บริการมาก ถือเป็นเรื่องปกติ และยังขึ้นอยู่กับความต้องการในแต่ละช่วงด้วย เช่น หลังเกิดเหตุน้ำท่วมเกษตรกรก็จะนำหัวรถไถไปจำนำกันมาก เป็นต้น

ส่วนภาพที่เห็นว่าขณะนี้มีหัวรถไถถูกนำไปจำนำเป็นจำนวนมากนั้น เนื่องจากโรงรับจำนำของพื้นที่ใกล้เคียงในอ.บางมูลนาก และตะพานหิน จ.พิจิตร ไม่ได้รับจำนำอุปกรณ์ทางเกษตร เพราะเป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เกษตรกรจึงต้องนำไปจำนำที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์”

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ทอง นาก เพชร และเครื่องรูปพรรณ เงินรูปพรรณ นาฬิกาข้อมือ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ เป็นทรัพย์สินที่มีการนำไปจำนำมากที่สุดตามลำดับ ส่วนเครื่องมืออุปกรณ์ทางการเกษตรมีจำนวนน้อยที่สุด และมีปริมาณการจำนำใกล้เคียงกับทุกปี อีกทั้งรัฐบาลชุดนี้ได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรนำอุปกรณ์ทางการเกษตรไปจำนำได้ เพิ่มเติมจากทรัพย์สินประเภทอื่น อย่างไรก็ตาม นายกฯ อยากให้คนไทยทุกคนสร้างวินัยการออมเพื่ออนาคตในระยะยาวด้วย