วธ.คัดหนัง3เรื่องหาต่างชาติ ร่วมทุนสร้างในเทศกาลหนังคานส์

วานนี้ (11 พ.ค.) เวลา 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดคูหาประเทศไทย (Thailand Pavilion) ภายในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Festival de Cannes) ครั้งที่ 71 สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 8-17 พ.ค.2561 โดยมีนางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ข่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ รองปลัด วธ. กรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายวิษณุ กล่าวภายหลังเปิดคูหา ว่า รัฐบาลให้การส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เพราะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศและสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งในเวทีโลก โดยปัจจุบันการเติบโตอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยอยู่ที่กว่า 1 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี ซึ่งเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ถือเป็นตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่รวมผู้ผลิตภาพยนตร์ นักลงทุน ผู้สนใจภาพยนตร์เป็นชุมชนขนาดใหญ่ โดยในปีนี้รัฐบาลโดย กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) และกระทรวงพาณิชย์(พณ.) ในนาม "ทีมไทยแลนด์" จัดกิจกรรมส่งเสริมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ในงานตลาดภาพยนตร์เมืองคานส์ (Marche du Film) และงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการใช้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ รวมทั้งเพื่อสนับสนุนการผลิตผลงานภาพยนตร์ของผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของไทย ทั้งในด้านการอุดหนุนการผลิต การเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์สู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

"ไทยเข้าร่วมเทศกาลปีนี้เป็นปีที่ 14 และเป็นครั้งแรกที่มีการขยายคูหาเพิ่มเป็น 2 คูหาตรงนี้สะท้อนให้เห็นบางอย่าง และยังเน้นการบูรณาการของ 3 หน่วยงานที่มีจุดเด่น ความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน เช่น วธ.คัดเลือกภาพยนตร์ไทย 3 เรื่อง ที่ชนะการประกวดจากโครงการสร้างภาพยนตร์เพื่อการร่วมลงทุน ประจำปี 2561 (Thai Film Pitching at Cannes 2018) มาร่วมนำเสนอและหาผู้ร่วมลงทุนภายในงาน พณ.นำบริษัทผู้ผลิต 10 บริษัทมาเปิดบุธเพื่อการติดต่อซื้อขายหนัง ซึ่งพบว่า 2 ที่ผ่านมาก็มีหลายแห่งมาสอบถามข้อมูล ทั้งนี้ การร่วมลงทุน หรือการตัดสินใจซื้อไม่ได้เกิดเพียงแค่การพบกันครั้งเดียว แต่ต้องอาศัยการพบปะหลายครั้งต่อเนื่อง และที่ผ่านมามีโครงสร้างภาพยนตร์ที่ได้นำเสนอเพื่อหาทุนสร้างในต่างประเทศกว่า 20 เรื่องจนนำไปสู่การสร้าง ประกวดได้รับรางวัลเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วย" นายวิษณุ กล่าว

รองนายกฯ กล่าวต่อไปว่า การมาร่วมเปิดคูหาในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ไม่ใช่เพียงได้ประโยชน์ในการหาตลาด ยังมีการคัดเลือกภาพยนตร์มาฉาย มีดาราผู้เกี่ยวข้องเดินพรมแดงเป็นสีสัน ที่สำคัญคือเกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยว การรู้จักศิลปะวัฒนธรรม และยังทำให้ต่างชาติได้รู้จักประเทศไทย ได้ทราบว่ามีสถานที่สวยงามที่ใดบ้างเหมาะแก่การถ่ายทำ ซึ่งภายในงานนี้ ก.การท่องเที่ยวฯจะนำเสนอ โดยในปี 2560 เป็นปีแรกที่รัฐบาลได้กำหนดมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย (Film Incentive Measures : Cash Rebate) หากนักลงทุนมาถ่ายทำภาพยนตร์ หรือสารคดีภายในประเทศไทย ใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท จะได้คืนเงิน 15-20% ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากต่างประเทศและที่ผ่านมามีบริษัทได้รับคืนเงินตามมาตรการนี้แล้ว

สำหรับปีนี้ภาพยนตร์ไทย 3 เรื่อง ที่ชนะการประกวดจากโครงการสร้างภาพยนตร์เพื่อการร่วมลงทุน ประจำปี 2561 (Thai Film Pitching at Cannes 2018) ที่ วธ.นำมาร่วมนำเสนอและเปิดให้มีการเจรจากับนักลงทุนในวันที่ 13-14 พ.ค.นี้ ได้แก่ 1. เรื่อง “หิ่งห้อย” (The Fireflies) โดย นายต้องปอง จันทรางกูร และนายทักษกร ประดับพงษา 2. เรื่อง “ดิน ฟ้า มหาสมุทร” (Solids by the Seashore) โดย นายปฏิภาณ บุญฑริก และนายชาติชาย ไชยยนตร์ และ 3. เรื่อง “สวรรค์ในอก” (Down to Heaven) โดย นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ และนายดรสะรณ โกวิทวณิชชา

ขณะเดียวกัน ยังมีภาพยนตร์ไทยเรื่อง "Ten Years Thailand" ซึ่งเป็นหนังสั้น 4 เรื่องจาก 4 ผู้กำกับ คือ เรื่อง "Sunset" โดย อาทิตย์ อัสสรัตน์ ,เรื่อง "The Planetarium" โดย จุฬญานนท์ ศิริผล ,วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง เรื่อง "Catopia"และเรื่อง "Sound of the City" โดย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ได้รับคัดเลือกมาฉายภายในงานเทศกาลภาพยนตร์คานส์เป็นที่แรกด้วย นอกจากนี้ ภาพยนตร์ เรื่อง DOI BOI (ดอยบอย) โดยนายนนทวัฒน์ นำเบญจพล และเรื่อง "Regretfully at Dawn" โดย ศิวโรจน์ คงสกุล และพิมพกา โตวิระ ได้รับคัดเลือกเข้ามาเสนอหาทุนภายในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ด้วย

ทั้งนี้ ในวันที่ 12 พ.ค.มีการจัดงานเลี้ยง Thai Night โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีและทรงเยี่ยมนิทรรศการประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของไทย การเจรจาธุรกิจด้านภาพยนตร์ในระดับนานาชาติ ซึ่งปีนี้ พณ.นำผู้ประกอบการไทยประมาณ 10 ราย อาทิ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด บริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จำกัด บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น มาจำหน่ายภาพยนตร์ไทย