สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 7-11 พฤษภาคม 2561

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 7-11 พฤษภาคม 2561

“เงินบาทฟื้นตัวได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ หลังอ่อนค่ากว่าระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับต่ำกว่าสัปดาห์ก่อน”

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

-  เงินบาทปรับตัวทะลุแนว 32.00 บาทต่อดอลลาร์ แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 4 เดือนที่ 32.22 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์ จากกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมา อาจส่งผลทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้นในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงติดลบลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ เผชิญแรงขายทำกำไร หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

-  ในวันศุกร์ (11 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.85 เทียบกับ 31.76 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (4 พ.ค.)   

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (14-18 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.75-32.25 บาทต่อดอลลาร์ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศ น่าจะอยู่ที่สัญญาณนโยบายการเงินของกนง. (16 พ.ค.) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีภาวะธุรกิจของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ค. ยอดค้าปลีก ยอดการเริ่มสร้างบ้าน ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ตัวเลขเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ เดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และความคืบหน้าของการเจรจาด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

-  ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน แม้ในช่วงปลายสัปดาห์ จะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,765.93 จุด ลดลง 0.78% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่  มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ปรับลดลง 2.35% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 53,407.10 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 479.03 จุด ลดลง 1.93% จากสัปดาห์ก่อน

-  ดัชนีตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันเกือบตลอดสัปดาห์ ทั้งจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ที่ต่อเนื่องจนถึงกลางสัปดาห์ และปัจจัยกดดันเพิ่มเติม จากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มสื่อสาร อย่างไรก็ดี ดัชนี SET สามารถฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ ตามแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (14-18 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,750 และ 1,740 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,775 และ 1,785 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. และดัชนีการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2561 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่น และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของจีน