ไทยอันดับ 2 จุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวมุสลิมโลก
ไทยติดอันดับ 2 จุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวมุสลิมโลก รองจาก สิงคโปร์
ผลการสำรวจดัชนีการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมทั่วโลกประจำปี 2018 ของบริษัท”มาสเตอร์การ์ด-เครสเซนเทรททิง" ( Mastercard and Crescentrating ) โดยสำรวจทั้งสิ้น 130 ประเทศ แยกเป็นประเทศในกลุ่มความร่วมมืออิสลาม (ไอโอซี) 48 ประเทศ และนอกกลุ่มไอโอซี 82 ประเทศ พบว่า ไทยเป็นประเทศน่าเที่ยวสำหรับชาวมุสลิมอันดับ 16 ขยับขึ้นสองอันดับจากการสำรวจปีก่อนหน้า
แต่หากเปรียบเทียบกับบรรดาประเทศนอกไอโอซีหรือไม่ใช่มุสลิมด้วยกันแล้ว ไทยจัดเป็นประเทศที่ชาวมุสลิมนิยมมาท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียงสิงโปร์เท่านั้น ตามด้วยสหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และไต้หวัน โดยเฉพาะญี่ปุ่นกับไต้หวันนั้น ได้ขึ้นมาอยู่ใน 5 อันดับแรกของแหล่งท่องท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับชาวมุสลิมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มสารวจ
สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับ ได้แก่ การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว การสื่อสาร การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวของกลุ่มมุสลิม
รายงานระบุว่า ตลาดการท่องเที่ยวชาวมุสลิมมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะมีมูลค่า 6,900 ล้านล้านบาท ภายในปี 2563 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 9,500 ล้านล้านบาทภายในปี 8 ปีข้างหน้าหรือในปี 2569 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อน อาทิ ประชากรชาวมุสลิมมีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในโลก และคาดว่าจะสูงขึ้นเท่ากับ 26% ของประชากรทั่วโลกในปี 2030 และจะมีจานวนมากที่สุดในโลกภายในปี 2050 การเติบโตของคนระดับกลาง การเข้าสู่สังคมประชากรรุ่นเยาว์
นอกจากนี้ การเข้าถึงแหล่งข้อมูลทางการท่องเที่ยวได้มากขึ้น ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนสมาร์ทโฟนก็มีส่วน ตลอดจนการขยายตัวของแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับมุสลิม การท่องเที่ยวช่วงเดือนรอมฎอนที่เป็นปัจจัยกระตุ้นต่อเรื่อง และการเดินทางเพื่อทำธุรกิจ
สถิติปี 2560 พบว่า มีชาวมุสลิมจำนวนประมาณ 131 ล้านคน เดินทางท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลก เพิ่มขึ้นจาก 121 ล้านคน ในปี2559 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 156 ล้านคน ทั่วโลกภายในปี 2563 หรือร้อยละ 10 ของธุรกิจท่องเที่ยว
สำหรับประเทศไทย เมื่อปีที่แล้ว ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมถึง 3.6 ล้าน คิดเป็นเกือบร้อยละ 10 ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทย