'ประจิน' เผยใช้ 350 ล้านผลิต 'นักรบไซเบอร์'

เมื่อวันที่ 10 พ.ค.61 เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในกิจกรรมสื่ออยากรู้ รัฐบาลอยากเล่า ในหัวข้อ “มุมมองของรองนายกฯประจิน” ว่า การเพิ่มความรู้เป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับประชาชน เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ว่าทำไมเราต้องกำหนดการพัฒนาคนคือการพัฒนาประเทศ แล้วทำไมเราต้องกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในเป้าหมาย 2 อย่าง คือ 1.ผลักดันให้คนเรียนจบตรงกับความต้องการของตลาด และ2.พัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มการวิจัยที่มีคุณค่ามากกว่าการเรียนการสอนทั่วไป และทำให้เกิดนวัตกรรม จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลจึงต้องทำควบคู่ระหว่างการวางแผนประเทศและการปฏิรูป

"ถ้าเราเปรียบคนไทยเป็นลูกดอก ลูกดอกจะมีส่วนหน้าคือหัวลูกดอก ส่วนกลางที่เป็นด้าม และหาง ที่จะมีการเน้นใน 3 ส่วน แต่ลูกดอกทั้งหมดนั้นพุ่งไปที่เป้าหมายวงกลมตรงกลางสีแดง ถ้าเราเอาลูกดอกไปถึงเป้าตรงกลางได้ ก็นับว่าถึงเป้าหมาย 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ตั้งไว้ แต่ถ้าลูกดอกตกไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าโครงการนี้เฟล เราจึงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนให้ลูกดอกพุ่งไปถึงเป้าหมาย" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวถึงการจัดเตรียมนักรบไซเบอร์ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ Cyber Security เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เราก้าวเข้าสู่โลกไซเบอร์ ซึ่งมีทั้งแง่บวกและแง่ลบ โดยแง่ลบคือการละเมิดบุคคลที่สาม ทำลายข้อมูล เราจึงมีการออกมาตรการต่างๆขึ้นมาจับตาการใช้คอมพิวเตอร์ในทางที่ผิด ซึ่งมีกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อีกทั้งยังมีการออกกฎหมายพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาบังคับใช้แล้ว จากนี้จะมีกฎหมายตามมา เกี่ยวกับการละเมิดบุคคลที่สาม แต่บุคลากรยังไม่เพียงพอ ทำให้ต้องจัดอบรมนักรบไซเบอร์เพิ่ม ตั้งเป้าในปี 64 มีประมาณ 4,500 -5,000คน แต่เบื้องต้นจะเร่งดำเนินการให้ได้ 1,000 คนก่อน เพื่อเข้ามาดูแลการกระทำผิดเรื่องเหล่านี้ โดยใช้งบประมาณในการฝึกอบรม 350 ล้านบาท และจะดำเนินการทันทีกลางเดือนมิ.ย.นี้