Retail Market Monitor (10 พ.ค.61)

ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นหลังสหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน (ทำให้กังวลว่า สหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งจะทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของอิหร่านหายไปจากระบบ) กลับมาเร่งความกังวลเรื่องเงินเฟ้อสหรัฐฯ ส่งให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลในภาพการลงทุนใหญ่ๆ 2-3 ประการ คือ 1) นักลงทุนที่กู้ยืมในสกุลเงินสหรัฐฯ เพื่อไปลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ทำการผิดสถานะและทยอยคืนเงิน (Unwind US dollar carry trade) ซึ่งการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ เร่งกระบวนการดังกล่าว 2) มุมมองต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้นักลงทุนยังจำต้องคง หรือเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ ที่มีความสามารถป้องกันเงินเฟ้อ (Inflation hedged asset) 3) นักลงทุนกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย ที่ยังคงต้องป้องกันเงินเฟ้อได้เช่นกัน ทำให้ทองคำมีแนวโน้มได้รับการจัดสรรเม็ดเงินมากขึ้น

การไหลออกของเงินทุนต่างชาติ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับสูงขึ้นไล่ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งคาดจะส่งผลกระทบต่อการกู้ยืมในช่วงถัดไป ทำให้นักลงทุนต้องระวังหุ้นที่มีการกู้ยืม หรือจ่ายดอกเบี้ยในระดับสูง ขณะเดียวกันเราคาดว่าสถานการณ์นี้ ทำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร (ซึ่งอาจมีกำไรลดลง หรือขาดทุนจากซื้อขายตราสารหนี้ ในภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น) ที่ยังอาจปรับลดลง แต่ในทางพื้นฐานถือว่า risk-reward ของกลุ่มธนาคารอยู่ในระดับที่น่าสนใจ

Investment Theme เก็งกำไรแบบตัดขาดทุนในโภคภัณฑ์หรือหุ้นรายตัว // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) IVL 2) IRPC 3) PTTGC 4) BANPU // กลุ่มธนาคาร ชอบได้แก่ BBL, KTB, SCB // หุ้นกลุ่มไฟฟ้า BCPG, BGRIM, GULF*, EA // MSCI รอบใหม่ 14 พ.ค. (มีผล 31 พ.ค.) KTC, GULF, BEAUTY

ภาพรวมกลยุทธ์: ช่วงสั้นมีแนวรับ 1750 การหลุด 1766 อาจสร้างโมเมนตัม เชิงลบต่อการอ่อนตัวลงแถว 1720-1730 ได้ การเก็งกำไรควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ PTT / เก็งกำไร SNC (เป้า 20.00 ตัดขาดทุน 15.40), FSMART (เป้า 12.00 ตัดขาดทุน 9.50)

แนวรับ 1750 / แนวต้าน : 1770 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

ประเด็นการลงทุน

ราคาน้ำมัน – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง โดยได้รับแรงผลักดันจากการประกาศถอนตัวข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านของปธน.ทรัมป์ รวมถึงตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดลงมากกว่าคาด

IMF มองเศรษฐกิจเอเชียแข็งแกร่งแต่ยังเสี่ยงเรื่องการคุมเข้มนโยบายการเงิน - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุภาพรวมเศรษฐกิจในเอเชียค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากการเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงการเข้าสู่ช่วงพักฐานของตลาดและนโยบายกีดกันทางการค้า

IFRS9 คาดได้ข้อสรุปสิ้นเดือนนี้ – กกบ.คาดได้ข้อสรุปการพิจารณาบังคับใช้มาตรการบัญชี IFRS9 ภายในสิ้นเดือนนี้ หลัง กกร.ยื่นหนังสือพิจารณาเลื่อนการบังคับใช้ออกไปจากกำหนดเดิมในวันที่ 1 ก.ค.62 เป็นวันที่ 1 ม.ค.65

มูลค่าการลงทุนโต 200% โดยกว่า 80% อยู่ในเขตพื้นที่ EEC – BOI เผยยอดขอส่งเสริมการลงทุนในไตรมาส 1/61 อยู่ที่ 366 โครงการ เพิ่มขึ้น 27%yoy ขณะที่มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 205.14 แสนลบ. เพิ่มขึ้นกว่า 200%yoy โดยยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าการลงทุนใน EEC มากถึง 81% (66 โครงการ) พร้อมขยายเวลาให้การส่งเสริม 10 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนออกไปสิ้นสุดในปี 63 จากกำหนดเดิมในเดือน ธ.ค.61

ประเด็นติดตาม: 10 พ.ค. – เงินเฟ้อสหรัฐฯ / 16 พ.ค. – ประชุมกนง. / 14 พ.ค. – MSCI Review / 23 พ.ค. – ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาพ.ร.บ.คัดเลือก ส.ส. ส.ว.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)