'มีชัย' ยัน ตร. ไม่ตกงาน หากโอนภารกิจไปหน่วยงานอื่น

'มีชัย' ยัน ตร. ไม่ตกงาน หากโอนภารกิจไปหน่วยงานอื่น

"มีชัย" ยัน ตร. ไม่ตกงาน หากโอนภารกิจไปหน่วยงานอื่น แจง กำลังพลขาดแคลน สามารถให้ทำงานส่วนอื่นได้ หรือ หากใจรักอาจย้ายหน่วยได้ ประเมิน อีก 3 สัปดาห์ ลงมือเขียน ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.... เปิดความคืบหน้าการพิจารณาว่า ขณะนี้ที่ประชุมได้หารือเพื่อวางหลักการก่อนนำไปพิจารณาเนื้อหาและบทบัญญัติในร่างกฎหมาย ทั้งนี้ในหลักการสำคัญที่ได้ข้อสรุป คือการโอนย้ายภารกิจส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจโดยตรง เช่น ตำรวจรถไฟ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, งานด้านการจราจรให้หน่วยงานท้องถิ่น ในจังหวัดรับผิดชอบ โดยส่วนงานที่จะโอนนั้นจะเป็นเพียงภารกิจงานเท่านั้น และจะไม่เกี่ยวข้องกับอัตรากำลังของเจ้าพนักงาน แต่หากเจ้าพนักงานคนใดที่มีความชอบและรักในงานที่ทำมาแต่เดิม จะโอนย้ายตัวเองไปยังหน่วยงานใหม่ที่รับโอนก็ได้

"ตำรวจที่มีหน้าที่ในภารกิจซึ่งถูกโอนย้ายจะไม่ตกงานแน่นอน เพราะขณะนี้อัตรากำลังของตำรวจมีไม่เพียงพอ และหลายพื้นที่ขาดแคลน อีกทั้งเจ้าพนักงานถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ แม้จะไม่ได้ทำงานภายใต้สายงานที่เคยทำ แต่ยังใช้ความรู้และความสามารถไปทำงานในส่วนอื่นได้" นายมีชัย กล่าว

นายมีชัย กล่าวยืนยันว่าสำหรับการโอนย้ายงานตำรวจไปยังหน่วยงานอื่นหรือท้องถิ่นนั้น ได้หารือเบื้องต้นกับหน่วยงานท้องถิ่นแล้ว ทั้งนี้ไม่ถือว่าเป็นการสร้างภาระงานเพิ่มเติมหรือภาระด้านงบประมาณให้กับหน่วยงานที่รับโอน อย่างไรก็ดีในแผนงานและส่วนที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายและการปฏิรูปตำรวจนั้น มีความจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะแก้ไขกฎหมายกี่ฉบับ ขณะที่การทำเนื้อหาร่างพ.ร.ป.ตำรวจ คาดว่า อีก 2-3 สัปดาห์จะเริ่มเขียนได้

ตามร่างกฎหมายตำรวจจะมีเนื้อหาที่เขียนถึงแผน ขั้นตอน กลไกที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการประเมินบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเลื่อน ลด ปลด ย้าย เพื่อเป็นหลักประกันว่าหากหน่วยางส่วนงานที่เกี่ยวข้องตั้งหน้าตั้งตาทำแล้วจะไมมีใครแซงเขาไปได้ ส่วนประเด็นที่เป็นเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยนั้น อาจจะให้อำนาจหน่วยงานไปออกอนุบัญญัติเพิ่มเติม ขณะที่การปฏิบัติตามกฎหมายนั้นที่ประชุมได้หารือแต่ยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะเขียนบทบังคับหรือบทลงโทษใดๆ หรือไม่ นายมีชัย กล่าว

ประธาน กรรมการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ กล่าวด้วยว่าสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพงานของตำรวจนั้น เบื้องต้นได้พิจารณาส่วนที่จะลดภาระงานของตำรวจ เช่น กรณีที่บริษัทให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ กำหนดให้แจ้งความกับตำรวจ เมื่อโทรศัพท์หรือซิมโทรศัพท์หาย ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น นอกจากนั้นจะลดภาระของประชาชน ต่อการแจ้งความเพื่อทำคดี ที่เดิมกำหนดให้ต้องแจ้ง สน. พื้นที่ที่เกิดเหตุ แต่ต่อไปจะกำหนดให้สามารถแจ้งความในท้องที่ใดก็ได้ แต่หากคดีมีรายละเอียดที่ซับซ้อน อาจประสานยังพื้นที่เกิดเหตุได้ เป็นต้น ขณะที่การสืบสวน สอบสวนและปราบปราม นั้นได้ข้อสรุป คือ จะแยกเป็น 2 ระบบ คือ ระบบปราบปรามที่กำหนดให้มีงานสืบสวนเฉพาะ และ ระบบสืบสวนและสอบสวน ที่ต้อปฏิบติงานร่วมกัน ทั้งนี่เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ