พบเพิ่ม 217 ขรก.เอี่ยวโกงเงินคนจน

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.61 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินอุดหนุน ประเภทสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และคนไร้ที่พึ่งของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสิงห์บุรี ในการจัดซื้อผ้าห่มกันหนาว จำนวน 500 ผืน เพื่อแจกผู้สูงอายุ ในวงเงินงบประมาณ 200,000 บาทว่า การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าราคาจัดซื้อผืนละ 400 บาทสูงเกินกว่าราคาตลาด และได้รับข้อมูลจากชาวบ้านว่าได้รับแจกผ้าห่มจริง 2 ครั้งในช่วงเดือนก.พ.และธ.ค. 60 แต่ยังมีข้อสงสัยในทุกประเด็นของการใช้จ่ายงบประมาณในปี 60 ว่า มีการจัดซื้อผ้าห่ม และแจกจ่ายครบหรือไม่ และการแจกผ้าห่มในเดือนธ.ค. 60 ซึ่งอยู่ในปีงบประมาณ 2561 ว่าเป็นการนำผ้าห่มค้างจากปี 2560 มาแจก หรือตั้งงบฯเพื่อจัดซื้อใหม่ จึงให้เจ้าหน้าที่ป.ป.ท.ลงไปตรวจสอบเชิงลึกเกี่ยวกับสัญญาจัดซื้อ และราคาซื้อขาย รวมทั้งพิจารณาถึงสภาพความจำเป็นว่าจังหวัดสิงห์บุรีมีความจำเป็นต้องซื้อผ้าห่มแจกจ่ายหรือไม่ แต่ยังไม่ลงลึกไปถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยต้องรอตรวจสอบเรื่องของสัญญาซื้อขายให้เสร็จสิ้นก่อน

“สำหรับจำนวนข้าราชการที่อยู่ในข่ายถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาทุจริตงบประมาณสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งขณะนี้มีจำนวน 217 ราย คาดว่าบอร์ดป.ป.ท.จะส่งรายชื่อให้ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัย และย้ายพ้นจากหน้าที่ระหว่างถูกดำเนินคดี” พ.ท.กรทิพย์กล่าว

พ.ท.กรทิพย์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2560 ประเภทเงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง เฟส 3 ซึ่งครอบคลุมศูนย์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสงเคราะห์คนไรที่พึ่งและนิคมสร้างตนเอง 28 แห่ง ล่าสุดได้กระจายชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ไปแล้วหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ 5 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน หากพื้นที่ใดพบความผิดปกติก็จะดำเนินการทันที สำหรับในกรุงเทพดำเนินการตรวจสอบศูนย์สงเคราะห์ขอทาน ซึ่งยอมรับว่ามีความยากในการตรวจสอบ เนื่องจากต้องดูระเบียบดูภาพรวม วิธีการสงเคราะห์เป็นอย่างไร การกำหนดกลุ่มขอทานว่ามีรายละเอียดอย่างไร รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าปัจจุบันขอทานส่วนใหญ่เป็นต่างด้าว ไม่ใช่คนไทย