เวทีคนอยากเลือกตั้ง หยุดระบอบคสช.ครึกครื้น

เวทีคนอยากเลือกตั้ง หยุดระบอบคสช.ครึกครื้น

เวทีคนอยากเลือกตั้ง หยุดระบอบคสช.ครึกครื้น แกนนำสลับขึ้นปราศรัยโจมตี มวลชนร่วมซื้อสินค้าช้อปช่วยทาส "เนติวิทย์-เอกชัย" ก็มา

เมื่อวันที่ 5  พฤษภาคม 2561 "เวที" ต้านคสช. - คนอยากเลือกตั้ง หยุดระบอบคสช.ครึกครื้น แกนนำสลับขึ้นปราศรัยโจมตี ส่วนมวลชนร่วมซื้อสินค้าช้อปช่วยทาส เปิดวางจำหน่ายเกือบสี่สิบร้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุม ของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งหลังเปิดเวทีปราศรัยในเวลา 16.00 น. บรรดาแกนนำได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยเนื้อหาโจมตีการบริหารของรัฐบาลคสช. ในด้านต่าง ๆ คล้ายการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตกแต่งเวทีให้คล้ายกับรัฐสภา

ต้านคสช.-อยากเลือกตั้งคึกครื้น !

โดยเนื้อหาในการปราศรัย แบ่งเป็นหลายหัวข้อ เช่น. กลุ่มแรงงานที่ประสบปัญหาสวัสดิการต่ำ ค่าแรงไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ. ขณะที่กลุ่มนักศึกษาและประชาชนกล่าวโจมตีในประเด็นถูกคุกคามสิทธิในการแสดงความคิดเห็นทำให้แกนนำผู้ชุมนุมกว่า 100 คน ถูกดำเนินคดีข้อหาปลุกปั่น ม.116 ข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้าคสช.  และฝ่าฝืนพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ

ต้านคสช.-อยากเลือกตั้งคึกครื้น !

รวมถึงนายเอกชัย หงส์กังวาน. ขึ้นปราศรัยในประเด็นนาฬิกายืมเพื่อนของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ซึ่งการตรวจสอบของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ไม่มีความน่าเชื่อถือเนื่องจากพล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานป.ป.ช.มีความใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตร. ดังนั้นจึงต้องเดินทางไปมอบป้ายไวนิลภาพนาฬิกา ให้ที่ทำเนียบรัฐบาลทุกสัปดาห์. โดยมีมวลชนนั่งฟัง ปรบมือ ส่งเสียงโห่ร้องให้กำลังใจเป็นระยะ ๆ

ต้านคสช.-อยากเลือกตั้งคึกครื้น !

สำหรับพื้นที่โดยรอบเวทีปราศรัย เปิดให้มวลชนกลุ่มต่าง ๆ นำสินค้ามาวางขายกว่า 35 ร้าน. ภายใต้ชื่อ”ตลาดนัดช้อปช่วยทาส” โดยซุ้มที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นส้มตำถาด.  ซึ่งนั่งตำและเสิร์ฟกันสด ๆ. ทางด้านกลุ่มของนายเนติวิทย์. โชติภัทร์ไพศาล ได้นำหนังสือคัดค้านการเกณฑ์ทหารมาวางจำหน่าย