ประตูบานใหม่ส่งสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์

ประตูบานใหม่ส่งสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์

ดีป้าทุ่ม 4 ล้านผุดโครงการ สตาร์ทอัพ ฟาสแทร็ก โกอินเตอร์ ร่วมกับ ไรส์ และ สจล. จัดบูทแคมป์พัฒนาศักยภาพ พร้อมพาไปโรดโชว์วีซีในสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มโอกาสและทางรอดให้กับสตาร์ทอัพไทยเติบโตในตลาดต่างประเทศแถบอาเซียน

นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงาน สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลผู้ประกอบการสตาร์ทอัพทั่วโลก 90 % มักจะจบลงด้วยความล้มเหลว มีเพียง 10% เท่านั้นที่อยู่รอด และมีเพียง 3% ที่มีโอกาสเติบโตสู่ระดับภูมิภาค และระดับโลกสาเหตุหลัก 49% หาตลาดไม่เจอ รองลงมาขาดเงินทุน 29% ที่เหลือสาเหตุอื่นๆ ดังนั้น ในฐานะเป็นหน่วยงานสนับสนุนสตาร์ทอัพให้เติบโต เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ


ดีป้าจึงเปิดตัวโครงการ Startup FastTrack “Go inter with depa” ร่วมกับ ไรส์ สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ และสำนักบริหารงานวิจัยและนวัตกรรมสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (KRIS) เพื่อส่งเสริมการสร้างสตาร์ทอัพไทยก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดอาเซียน ถือว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้กับตลาดยุโรป ฉะนั้น ถึงเวลาแล้วที่สตาร์ทอัพไทยต้องก้าวข้ามกำแพงภาษา และภาษี ออกไปสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อได้เติบโตได้อย่างยั่งยืน


รศ.สมยศ เกียรติวนิชวิไลร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ( สจล.) กล่าวว่า ปัจจุบันถือเป็นยุคทองของสตาร์ทอัพไทย เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและสถาบันการศึกษา ต่างเข้ามาช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมการลงทุน สร้างเครือข่าย ซึ่งสจล.ได้ตระหนัก ถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคคลากรของ ประเทศสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาตลอดจนพัฒนาองค์ความรู้อื่นๆที่เกี่ยวข้องอันจะ นำไปสู่การถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้และเทคโนโลยีที่มีความพร้อม ที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของสตาร์ทอัพไทย ทั้งในรูปแบบการบ่มเพาะนักศึกษา และการให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการทั่วไปในการใช้เทคโนโลยีพื้นฐานในการต่อยอดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องกล้าคิด กล้าทำ เพราะเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงโลกและรูปแบบการทำงานแบบเดิม เป็นความท้าทายที่คนรุ่นใหม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถาณการณ์ที่เปลี่ยนไป การทำงานประจำน้อยลง


น.ส. หญิง จิตติพัฒนกุล ผู้ร่วมก่อตั้งร่วมกับ ไรส์ สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ และสำนักบริหารงานวิจัย กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมโครงการ Startup FastTrack “Go inter with depa” จะประกอบไปด้วยกลุ่มนักศึกษา บุคคลทั่วไป และผู้ประกอบสตาร์ทอัพ โดยจะคัดเลือกสตาร์ทอัพจากทั่วประเทศ 10 ทีมใช้ระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค.นี้ เข้าสู่กระบวนการบ่มเพาะอย่างเข้มข้นเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมต่างๆมาเป็นพี่เลี้ยง เพื่อนำมาพัฒนาโมเดลธุรกิจของตนเองให้มีมาตรฐานสากลมากขึ้น


ทุกทีมจะมีโอกาสแสดงผลงานต่อหน้านักลงทุน ในประเทศไทยและทีมที่มีผลงานดีเด่นจะได้มีโอกาสไปแสดงผลงานต่อหน้านักลงทุน ณ สิงคโปร์ พร้อมทั้งจัดบูธแสดงผลงาน ในงาน ECHELON ASIA SUMMIT 2018 by e27 ซึ่งเป็นงานระดับโลก เป็นเวลา 3 คืน 4 วัน เพื่อเพิ่มช่องในการหาแหล่งเงินทุนทำให้สามารถขยายธุรกิจแบบก้าวกระโดดได้และทำให้สตาร์ทอัพไทยเป็นที่รู้จักของนักลงทุนระดับในภูมิภาค


ประโยชน์ที่ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับคือ การส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรมจากทางภาครัฐและภาคเอกชน สร้างการรับรู้เกี่ยวกับธุรกิจและนวัตกรรมของไทยให้มีความรู้จักในระดับสากล มีโอกาสนำเสนอผลงานต่อหน้านักลงทุนจากทั่วโลก เพิ่มช่องทางหาแหล่งเงินลงทุนจากต่างชาติ จัดตั้งพื้นที่แสดงผลงานที่งาน Echelon Summit 2018 ที่สิงคโปร์ รวมทั้งได้รับการประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศ จึงช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ตลอดจนเงินทุน เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน