ตร.คืนเงินเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 1.1 ล้าน

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. ตัวแทนจาก ปปง. ,ธนาคารกสิกรไทย ,ธนาคารกรุงเทพ ,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันในการคืนเงินที่อายัดได้จากการปราบปรามกับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ที่ใช้โทรศัพท์พูดคุยหลอกประชาชนให้หลงเชื่อ ครั้งที่ 14 จำนวน 4 ราย จำนวน 1,166,617.99 บาท

พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ เปิดเผยว่า จากความร่วมมือของหน่วยที่เกี่ยวข้องจนติดตามอายัดทรัพย์คืนเงินให้กับประชาชนที่เดือดร้อนได้ ในพื้นที่ สน.สามเสน สภ.กระทุ่มแบน และ สภ.เมืองนนทบุรี 2 ราย โดยจากสถิติตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560 ถึงปัจจุบัน มีคดีเกิดขึ้น 421 คดี มูลค่าความเสียหาย 209 ล้านบาทเศษ และขณะนี้ได้มีการทำสำนวนเกือบเสร็จสิ้นแล้ว โดยในพฤษภาคมนี้จะทำสำนวนส่งพนักงานอัยการให้แล้วเสร็จ จำแนกเป็น ของนครบาลเหลือ 62 คดี ภูธร 156 คดี ส่วนการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้ออกไปแล้ว 547 หมายจับ มีการจับ 375 หมาย โดยอยู่ในไทย 71 หมายจับ และบางส่วนหลบหนีอยู่ต่างประเทศ

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทยถือว่าเป็นศูนย์แล้ว แต่จะมีการเฝ้าระวังต่อไป และล่าสุดนี้ตำรวจก็สามารถจับกุม นายเฉิน เปี้ยน หลี่ ชาวไต้หวัน ตัวการใหญ่ที่สุดในการตั้งแก๊งหลอกลวงคนไทยในแถบภูมิภาคเอเชียได้แล้ว

สำหรับผู้เสียหายที่ถูกหลอกทั้ง 4 ราย ถูกหลอกให้โอนเงินไป รวมแล้วทั้งสิ้น 3,515591.05 โดยคุณป้า 1 ในผู้เสียหาย ได้เปิดเผยว่าในช่วงเวลาที่คนร้ายโทรมาพูดคุยด้วยนั้นโดยคนร้ายอ้างว่าบัญชีของตนถูกนำไปฟอกเงินในคดียาเสพติด มีการล่อหลอกพูดคุย ซึ่งช่วงนั้นยอมรับว่าขาดสติ และตกใจ แม้ว่าจะติดตามข่าวมามากก็ตาม

อย่างไรก็ตามผู้เสียหายที่ถูกเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงแต่ยังไม่ได้ไปร้องทุกข์ สามารถโทรแจ้งได้ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สตช. สายด่วน 1155 หรือที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) 1710