วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (4 พ.ค.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (4 พ.ค.61)

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นในกรอบแคบ ท่ามกลางอุปทานที่ตึงตัว และความกังวลต่อข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากความร่วมมือของผู้ผลิตน้ำมันดิบในการปรับลดกำลังผลิตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่สหรัฐอาจทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน

+ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคในเดือน เม.ย. เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 32 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าระดับ 32.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือเพดานการผลิตที่กลุ่มโอเปคกำหนดไว้ โดยการปรับลดลงส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาที่ทรุดตัวลง ในขณะที่อัตราความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิต (Compliance rate) ของรัสเซียในเดือน เม.ย. อยู่ที่ราว 95.2% โดยที่กำลังการผลิตคงที่จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 10.97 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านระบุว่าข้อเรียกร้องของทรัมป์ที่ต้องการให้มีการแก้ไขข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำไว้กับชาติมหาอำนาจนั้นถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โดยอิหร่านจะไม่เจรจาต่อรองหรือเพิ่มเติมเงื่อนไขใหม่ในข้อตกลงที่ได้เห็นพ้องร่วมกันกับชาติมหาอำนาจและได้ถูกบังคับใช้แล้ว โดยทรัมป์เคยยืนกรานว่าหากชาติพันธมิตรชาติยุโรปไม่แก้ไขข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านภายในเส้นตายวันที่ 12 พ.ค. นี้ สหรัฐจะไม่ขยายเวลาการหยุดคว่ำบาตรต่ออิหร่าน

+ แหล่งผลิตน้ำมันทางฝั่งทะเลเหนือที่เชื่อมต่อกับท่อขนส่งน้ำมันดิบเบรนท์ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปิดดำเนินการฉุกเฉินของท่าขนส่งน้ำมันดิบ Sullom Voe ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกน้ำมันดิบเบรนท์ราว 6 แสนบาร์เรล ที่มีกำหนดในการส่งมอบในเดือน พ.ค. ต้องถูกเลื่อนออกไปในเดือน มิ.ย. อย่างไรก็ดี ท่าขนส่งน้ำมันอาจกลับมาดำเนินการได้ใหม่ในวันที่ 6 พ.ค. นี้

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกจากเวียดนามที่เพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นใหม่ในเวียดนาม รวมทั้งปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากความต้องการใช้จากประเทศจีนที่อ่อนตัวลงในช่วงฤดูห้ามจับปลาประจำปี อย่างไรก็ดี ตลาดได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากอินเดียและตะวันออกกลางที่ยังคงแข็งแกร่ง รวมถึงอุปทานในภูมิภาคที่ตึงตัว

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 71-76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • จับตาการพิจารณาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยสหรัฐ ในวันที่ 12 พ.ค. 61 นี้ หลังสหรัฐส่งสัญญาณว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน และนำไปสู่การคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง
  • ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้น้ำมันโลกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคยังคงเดินหน้าปรับลดลงกำลังการผลิต
  • ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบทรงตัวเหนือระดับต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตในสหรัฐ ส่งผลให้จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

---------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

        โทร.02-797-2999