กวาดล้างอาชญากรรม129เป้าหมายทั่วปท. จับกุมต่างชาติแฝงเป็นนทท.67ราย

กวาดล้างอาชญากรรม129เป้าหมายทั่วปท. จับกุมต่างชาติแฝงเป็นนทท.67ราย

"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" แถลงกวาดล้างอาชญากรรม129เป้าหมายทั่วปท. จับกุมต่างชาติแฝงเป็นนทท.67ราย

สน.ห้วยขวาง  -  เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 4 พ.ค.2561  พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ,  พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 ,  พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. ,  พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.1 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว , เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 , หน่วยอรินทราช 26 , หน่วยรบพิเศษสยบไพรี กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ สน.ห้วยขวาง 

ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงาน ในยุทธการ X-RAY OUTLAW FOREIGNER ครั้งที่ 10 เพื่อกวดขันจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศไทย และมาก่ออาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมที่กระทบกับความมั่นคง ส่งผลต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย

โดยมี เป้าหมายในการตรวจสอบจำนวนทั้งสิ้น 129 เป้าหมาย ทั่วประเทศ อาทิเช่น โรงเรียนนานาชา ,  สถาบันสอนภาษา , โรงเรียนสามัญ ,  เป้าหมายอื่นๆ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 67 ราย ใน 3 ข้อหาคือ  ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร โดยสิ้นสุดการอนุญาต” มีสัญชาติลาว, อินเดีย , เวียดนาม , รัสเซีย และ เมียนมา ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ประกอบไปด้วยเมียนมา, กัมพูชา, ลาว,อินเดีย ,เวียดนาม ‘ เซียร์ราลีโอน และจับกุมในข้อหาอื่นๆ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่ร่วมกัน บรูณาการกำลังปฏิบัติยุทธการมากว่า 1 ปี ปฏิบัติงานตรวจค้นจับกุมกว่า 24 ครั้ง ตรวจค้น 3,372 เป้าหมาย จับกุมผู้กระทำความผิดได้ ทั้งหมด 1,088 รายนั้น พบว่าชาวต่างชาติผิวสีที่จะเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมลดลง ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้ ก็เป็นการปฏิบัติตามยุทธการอย่างต่อเนื่อง โดยบรูณาการกำลังจากหน่วยต่างกว่า1,200นาย เข้าตรวจค้นแหล่งที่พักที่เที่ยว ที่ทำงาน ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง จำนวน 129 เป้าหมาย ทั่วประเทศ ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมได้นั้น จะทำการเก็บหลักฐานทั้งลายนิ้วมือ ตรวจดีเอ็นเอ. ก่อนจะส่งให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทำการเพิกถอนวีซ่า และขึ้นบัญชีดำ เพื่อไม่ให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยอีก

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่าต่างชาติผิวสีที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมีปริมาณที่น้อยลง ส่วนใหญ่จะย้ายถิ่นฐานไปอาศัยตามปริมณฑล และอีกสิ่งที่เจ้าหน้าที่อยากจะเตือนโรงเรียนนานาชาติที่เป็นแหล่งที่มิจฉาชิพอาศัยเป็นแหล่งเปลี่ยนวีซ่าท่องเที่ยว เป็นNon ED Visa หรือวีซ่านักเรียน เพื่อเพิ่มระยะเวลาที่จะอยู่ในประเทศ เพราะหากพบว่าสถาบันการศึกษามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะมีความผิด โดยหลังจากนี้จะทำการประชุมหากับสำนักงานศึกษาธิการ เพื่อหารือแนวทางช่องว่างทางกฎหมายอีกด้วย