เศรษฐกิจอีสาน ไตรมาสแรกไม่ฟู หนี้ครัวเรือนยังสูง

เศรษฐกิจอีสาน ไตรมาสแรกไม่ฟู หนี้ครัวเรือนยังสูง

ธปท.แถลงภาวะเศรษฐกิจอีสาน ไตรมาสแรกของปีไม่โตนัก โดยรวมขยายตัวตามการใช้จ่ายของรัฐ ขณะที่สินค้าเกษตรอ้อยล้นตลาด ทำให้ราคาตกสวนกับราคาข้าวและมันสำปะหลัง และหนี้ครัวเรือนยังสูงกระทบเศรษฐกิจต่อเนื่อง

นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาส 1 ปี 2561 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนตามการใช้จ่ายภาครัฐและการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร จากผลผลิตสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้เกษตรกรบางกลุ่มปรับดีขึ้น โดยเฉพาะอ้อย ปีนี้ผลผลิตสูงมากในรอบ20ปี ปริมาณอ้อยเพิ่มกว่า40เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันข้าวกับมันสำปะหลังแม้จะมีผลผลิตออกมาไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดแต่กลับได้ราคาดีขึ้น ทำให้แนวโน้มราคาข้าวและมันสำปะหลังยังคงดีต่อเนื่อง

ขณะที่การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนชะลอลง จากการใช้จ่ายสินค้าในชีวิตประจำวัน สะท้อนกำลังซื้อโดยรวมยังไม่เข้มแข็ง อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายสินค้าคงทนหมวดยานยนต์และภาคบริการยังขยายตัวดีต่อเนื่อง ขณะเดียวกันพฤติกรรมของผู้บริโภคได้หันมานิยมซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางดั้งเดิมมากขึ้น

“พฤติกรรมการบริโภคผ่านออนไลน์ของคนอีสานแนวโน้มเพิ่มขึ้นไม่แตกต่างจากคนไทยทั่วประเทศ ที่หันมานิยมสั่งซื้อหรือเปิดร้านผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนการเปิดหน้าร้าน ขณะเดียวกันคนที่เปิดหน้าร้านก็หันมาปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าร้านเพื่อสนองความต้องการลูกค้าให้ตรงเป้าหมายมากขึ้นเช่นกัน”

ด้านการลงทุนภาคเอกชนยังต่ำกว่าระยะเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย แต่เริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น เช่นอสังหาริมทรัพย์เริ่มปรับตัวดีขึ้น มีโครงการใหม่ ยอดโอนเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดสต็อกคงค้างสะสมลดลง มีการขยายตัวของธุรกิจแปรรูปสินค้าเกษตรเช่นโรงงานน้ำตาลและการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน

ส่วนการค้าผ่านด่านศุลกากรชะลอตัวตามการส่งออก เช่น เวียดนามชะลอลำไย จีนตอนใต้ชะลอคอมพิวเตอร์ แต่ยังมีการขยายตัวในสินค้าน้ำมันสำเร็จรูปส่งออกไป สปป.ลาวและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคและผลิตภัณฑ์พลาสติกส่งออกไปยังกัมพูชา แต่การนำเข้ามีทั้งเพิ่มขึ้นคืออุปกรณ์มือและชิ้นส่วนจากเวียดนาม แต่สินค้าประเภทนี้ที่เคยนำเข้าจากจีนในช่วงนี้ชะลอลงบ้าง ส่วนการนำเข้าไฟฟ้าและปูนซีเมนต์จากลาวก็ยังขยายตัวเช่นกัน

สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงตามราคาพลังงาน ส่วนอัตราการว่างงานปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ ด้านเงินฝากของสถาบันการเงินชะลอลง ขณะที่สินเชื่อขยายตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อน

นายสมชาย ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่น่ากังวลอีกข้อคือหนี้ครัวเรือนภาคอีสานยังสูงเมื่อเทียบกับรายได้ยังอยู่ในสัดส่วน ร้อยละ 110 ซึ่งไม่ลดลงเลยเมื่อเปรียบเทียบกับของประเทศ สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีลดลง จาก เดิมสูงถึงร้อยละ80เหลือร้อยละ 77.5 จากปัญหานี้ทำให้รั้งการบริโภคของภาค ถึงแม้รายได้โดยรวมของภาคเกษตรของไตรมาสแรกจะดีขึ้น แต่ทำให้ต้องระมัดระวังค่าใช้จ่ายต้องติดตามเพราะจะกระทบกับการเติบโตของเศรษฐกิจของภาคในระยะต่อไป