กองปราบรวบเครือข่ายยาเสพติด 'เอ๋ สระบุรี' ค้ายานรก

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 พ.ค.61 พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.พงศ์พิทักษ์ บุญบำรุง พ.ต.ต.อนุรักษ์ บุญค้ำพงศ์ สว.กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.สกุลรัตน์ สุวรรณสุขโข อายุ 38 ปี พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุอยู่ภายในซองพลาสติกรูปแอปเปิ้ล จำนวน 20,000 เม็ด โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ ปั้มน้ำมันบางจาก ริม ถ.พหลโยธิน อ.หนองแค จ.สระบุรี

พ.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มเอเย่นต์ยาเสพติดเครือข่าย น.ส.เอ๋ ไม่ทราบนามสกุล หรือ เอ๋ สระบุรี ลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้กับเอเย่นต์รายย่อยในพื้นที่ จ.สระบุรี จึงได้ส่งสายลับแฝงตัวเข้าทำการติดต่อล่อซื้อ แต่เนื่องจาก น.ส.เอ๋ มีการระวังตัวเป็นอย่างดี จึงให้ น.ส.สกุลรัตน์ ผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ทำหน้าที่เจรจากับทางสายลับแทน ก่อนจะมีการนัดหมายส่งมอบเงินกันที่ปั้มน้ำมันบางจาก ริม ถ.พหลโยธิน อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยมี น.ส.สกุลรัตน์ เป็นผู้มารับเงินด้วยตนเอง พร้อมกับบอกตำแหน่งจุดรับยาเสพติดของกลาง ซึ่งจะมีผู้ร่วมขบวนการ อีกรายนำไปวางไว้ริมถนนเลี่ยงเมืองสระบุรี บริเวณด้านหน้าวิทยาลัยสารพัดช่างสระบุรี ต.โคกสว่าง อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบที่บริเวณดังกล่าวกระทั่งพบยาเสพติดของกลางถูกแบ่งบรรจุอยู่ในซองพลาสติกรูปแอปเปิ้ลวางทิ้งไว้ที่บริเวณริมถนนจริง แต่ไม่พบตัวไม่ผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวที่นำยามาวางไว้ จึงส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณปั้มน้ำมันบางจากให้เข้าทำการจับกุมตัว น.ส.สกุลรัตน์ ในทันที ก่อนควบคุมตัวไปทำการขยายผลตรวจค้นภายในบ้านพักของ น.ส.สกุลรัตน์ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม

จากการสอบสวนน.ส.สกุลรัตน์ ให้การรับสารภาพ โดยยอมรับว่า เป็นผู้ทำหน้าที่เป็นผู้หาลูกค้า และคอยทำหน้าที่เจรจาต่อรองข้อตกลงในการซื้อขาย ซึ่งยาเสพติดของกลางทั้งหมดนั้นเป็นของ น.ส.เอ๋ ส่วนผู้ร่วมขบวนการอีก 1 รายซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้คอยนำยาไปวางตามจุดต่างๆเพื่อรอให้ลูกค้ามารับของ คือ น.ส.กุ้ง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับยาบ้าบรรจุอยู่ในซองพลาสติกสีดำที่มีตราแอปเปิ้ลพิมพ์แปะไว้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นยาบ้าที่มาจากทางภาคเหนือ ซึ่งแตกต่างจากเดิมที่เป็นซองสีฟ้าที่มาจากฝั่งชายแดนริมแม่น้ำโขง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดี พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป