MORNING CALL ACTION NOTES (30 เม.ย.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (30 เม.ย.61)

รีบาวด์ต่อเนื่อง

ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ ผันผวนทั้งแดนลบและบวกแม้มีหลายปัจจัยบวกจากต่างประเทศ ทั้ง Bond Yield อ่อนตัว น้ำมันขึ้น ดัชนี ศก.สหรัฐฯดีขึ้น โดยได้ ICT TRANS และ ENERG หนุน ขณะที่หุ้นกลุ่ม HELTH และ ETRON มาหักล้างบางส่วนจาก ผลกำไรที่ต่ำคาดและค่าเงินบาทที่ชะลอการอ่อนค่า โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,778.02 จุด (+4.82 จุด) Volume 5.09 หมื่นลบ. Foreign Net -2,095 ลบ.  TFEX Net -4,676 สัญญา ตราสารหนี้ –3,383 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+สหรัฐเผย GDP Q1/61 โต 2.3% พุ่งเกินคาด แต่ชะลอตัวจาก Q4/60

+ BOJ เดินหน้าผ่อนคลายการเงินจนกว่าเงินเฟ้อแตะ 2% คาดสำเร็จปี 2562

+ สศค.คงเป้า GDP ไทยปีนี้โต 4.2% คาดส่งออกโตเพิ่มเป็น 8% จาก 6.6% แต่ลงทุน-บริโภครัฐ Q1/61 ชะลอตัวกดดัน

+สหรัฐเผยการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาประกาศคงไทยอยู่ในกลุ่ม WL ปีนี้หลังจากที่ถูกปลดออกจากรายชื่อ PWL ในปีที่แล้ว

+จีนเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนเม.ย.ปรับลงแตะ 51.4 PMI ภาคบริการเดือนเม.ย.ปรับขึ้นแตะ 54.8 บ่งชี้ว่าภาคการผลิต-ภาคบริการยังขยายตัว

- ดาวโจนส์ปิดลงแม้ว่า GDP จะออกมาดีเกินคาด แต่นักลงทุนยังกังวลสภาวะเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณชะลอความร้อนแรงได้

- น้ำมันดิบปิดขยับลงจากเบเกอร์ ฮิวจ์ เผยแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนสูงสุดในรอบ 3 ปีสู่ระดับ 825 แท่น

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 7.68 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทอยู่ที่ 31.52 บาท/USD

**ตลาดหุ้นจีนและญี่ปุ่นหยุดทำการ**

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลข GDP สหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ และสศค.ได้ปรับเพิ่มตัวเลขส่งออกเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ BOJ ที่ยังคงเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินจนกว่าเงินเฟ้อจะถึง 2% ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดวันนี้ คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,772-1,790 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- AOT เผย 6 สนามบินช่วงสงกรานต์ผู้โดยสารโต 8.5% เที่ยวบินโต 10.2%

- คาด KTC BEAUTY เข้าMSCI และลุ้นเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย (ที่มา ข่าวหุ้น)

- TVO ราคากากถั่วเหลืองขึ้นแรงต่อกัน 4 วัน 7.5% ส่วนเม็ดถั่วเหลืองขึ้นเพียง 2.9% ส่วนกำไร 1Q61 น่าจะออกมาดีเยี่ยมจากราคากากถั่วเหลืองทรงตัวสูง

- NYT ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ มี.ค.61 โต 4.7% มาที่ 110,946 คัน

- กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ HANA DELTA KCE และกลุ่นสินค้าส่งออก GFPT TU XO TFG BR เงินบาทอ่อนค่าสู่ 31.52 บาท/USD

- PTTEP PTTGC IRPC ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงที่ 67.97 $/bbl

- หุ้นปันผลเด่น KKP PDI BAFS GLOW KIAT NYT PL AP

หุ้นแนะนำพิเศษ

Major (ราคาปิด 28.75 บาท Bloomberg Consensus 31.18 บาท)

- ดำเนินธุรกิจโรงภาพยนตร์โดยปัจจุบันมี 131 สาขาและ 710 โรงภาพยนตร์ โดยมีแผนขยายโรงภาพยนตร์ให้ครบ 1,000 โรงในปี 63 (ใช้กลยุทธ์ขยายสาขาที่เล็กลงเข้าไปตามอำเภอต่างๆ ) รายได้หลักมาจากการจำหน่ายตั๋วหนัง ขนมขบเคี้ยว และโฆษณาในสัดส่วน 54% 19% และ 16% ตามลำดับ

- รายได้ทั้งการจำหน่ายตั๋วหนัง ขนมขบเคี้ยว และโฆษณาจะแปรผันกับจำนวนหนังและความดังของหนังที่เข้าฉาย ซึ่งล่าสุดเรื่อง Avengers Infinity War เข้าฉายวันแรกสามารถทำเงินไปได้ $39M ซึ่งสูงกว่า Avengers: Age of Ultron ที่ฉายวันแรกทำเงินไปได้ $27.6M และทำเงินรวม $1.4bn (ที่มา Boxofficemojo) นอกจากนี้ยังมีหนังที่เตรียมเข้าฉายใน 2Q61 ทั้ง Jurassic world:Fallen Deadpool2 และ Star war:Han solo (ปี 61 คาดมีหนังเข้าฉาย 330 เรื่อง Hollywood 195 Asia 80 และไทย 55)

- จุดเด่นกำไรย้อนหลัง 3 ปีค่อนข้างสม่ำเสมอที่ 1.1 พันล้านบาท จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ 1.15-1.25 บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็ฯอัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ย 4% และมี Net Debt/Equity ที่ต่ำเพียง 0.64 เท่า ปัจจุบันซื้อขายที่ PE Ratio เพียง 21 เท่า ต่ำกว่า PE เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีที่ 22 เท่า และต่ำกว่า PE อุตสาหกรรมที่ 500 เท่า

ส่องหุ้น

RCI   แนวรับ 2.58-2.56 บาท    แนวต้าน 2.66-2.68 บาท

ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้อีกครั้งหลังจากหลุดลงไปต่ำกว่าเส้นดังกล่าวติดต่อกัน 3 วัน อีกทั้งวอลุ่มซื้อขายยังเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแนวรับแถวๆ 2.58-2.56 บาทอีก ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 2.66-2.68 บาทได้

EA   แนวรับ 35.50-35.00 บาท      แนวต้าน 37.75 บาท

ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาได้ต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วันแล้ว โดยขยับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้พร้อมทั้งวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องอีกเล็กน้อย แม้ MACD จะยังไม่ผ่านขึ้นมายืนเหนือระดับศูนย์ก็ตาม หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 35.50-35.00 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีโอกาสดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 37.75 บาทอีกครั้ง

หุ้นมีข่าว   

·        MGT (ราคาปิด 2.26 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 3.12 บาท) ผู้บริหาร เผยดีลควบรวมกิจการเคมีภัณฑ์ใกล้จบแล้ว ส่วนงบ 1Q61 น่าจะออกมาแกร่ง ยังคงกลยุทธ์การจำหน่ายสินค้าไปในกลุ่ม Sector ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 13%YoY (ที่มา : ทันหุ้น)

·        ความเห็น ภายใต้สถานะการเงินแข็งแกร่ง (Net Cash 130 ล้านบาท) น่าจะหนุนให้ดีลดังกล่าวดำเนินไปได้อย่างราบรื่น แต่ต้องติดตามผลประกอบการของบริษัทดังกล่าวก่อน อย่างไรก็ตาม คาดกำไรงวด 1Q61 จะโตเกิน 30%YoY จากการมีอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวในระดับสูงจากงวดก่อนหน้า และฝ่ายวิจัยยังเชื่อมั่นในการเป็น Solution Provider ของบริษัทหนุนความสามารถทำกำไรทรงตัวต่อ ส่วนการขยายสินค้าใหม่ๆ ต้องติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิดแม้มีการลงทุนสร้าง lab และจ้างบุคลากรเพิ่มเติมไปแล้ว โดยรวมประมาณการของฝ่ายวิจัยคาดรายได้เติบโตราว 6%YoY ก่อนปรับขึ้นหากผลงานมากกว่าคาด ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

·        ประธานแบงก์กรุงไทย (KTB) ยันไม่มีแผนควบรวม TMB ส่วนการจ่ายปันผลงวดปี 61 อาจลดลง เหตุต้องตั้งสำรองฯรองรับ IFRS9 ขณะที่ AQ เตรียมขายหนี้ยกเข่ง 6 มิ.ย.นี้  (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ยันเงินทุนแข็งแกร่ง ธุรกิจเติบโตได้โดยไม่ต้องควบรวบ แต่ไม่ปิดกั้นหากพันธมิตรที่เข้ามาตอบโจทย์แบงก์ พร้อมเดินหน้าหั่นหนี้เสียต่ำกว่า 4.5% ส่วนเงินสำรองฯส่วนเกินปัจจุบันสูงถึง 4.5 พันล้านบาทไม่กังวลหากเข้าเกณฑ์ IFRS 9 (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        + CK เล็งผนึก BEM ประมูลไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน มูลค่ารวม 2 แสนล้านบาท พร้อมคาดหวังได้งาน 20-25% จากงานโครงการภาครัฐที่จะออกมาในปีนี้กว่า 4 แสนล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 7.2 หมื่นล้านบาท เตรียมออกหุ้นกู้ 2 พันล้านบาท ที่มาข่าวหุ้น

·        STEC เผยยกเลิกแผนเข้าร่วมทุนในโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น 154.98 MW กับ TSE

·        BTS ลั่นเข้าชิงรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแน่ รับพูดคุยกลุ่ม PTT เล็งชวนพันธมิตรดูไบเข้าร่วม

·        ประเด็นลบ CPF : สภาผู้ผลิตสุกรของสหรัฐยื่นคำร้องขอให้สนง.ผู้แทนการค้าสหรัฐ พิจารณาตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) สำหรับประเทศไทย  เนื่องจากไทยไม่เข้าข่ายคุณสมบัติประเทศผู้ได้รับสิทธิด้านการเปิดตลาดสินค้าให้แก่สหรัฐอย่างเป็นธรรมและสมเหตุผล เพราะไทยห้ามนำเข้าเนื้อสุกรของสหรัฐที่มีสารเร่งเนื้อแดงแรคโตพามีนตกค้าง แม้ไทยได้เคยแจ้งกับสหรัฐว่าจะแก้ไขกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับรองมาตรฐานสารตกค้างสูงสุดของสารเร่งเนื้อแดงดังกล่าวที่โคเด็กซ์หรือโครงการมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ กำหนด

·        AU (ราคาปิด 11.90 Bloomberg Consensus 15) มีแผนเปิด 10 สาขาใหม่จากปีก่อนมี 26 สาขา งบลงทุนประมาณ 70 ล้านบาท และเตรียมออกเมนูใหม่มากขึ้น รวมถึงวางขายโปรดักส์ใหม่วางขายในร้านกาแฟสตาร์บัคส์อีก 6-8 สาขา จากปีก่อนมี 2 เมนูใน 2 สาขา และมีแผนขยายช่องทางการจำหน่ายมากขึ้นโดยอยู่ระหว่างดำเนินการนำคุกกี้และสินค้าพร้อมทานมาจำหน่ายทาง"ร้านสะดวกซื้อ" ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็น ร้านขนมหวาน 94.99% และ การจัดงานนอกสถานที่ Catering และ OEM อีก 1.87% ของรายได้รวม  ส่วนการขยายแฟรนไชส์ AU ในตปท.ล่าสุดมีผู้สนใจขอซื้อแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก บริษัทสนใจมาเลเซียเป็นประเทศแรกปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาคาดจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ พร้อมกันนี้จะมุ่งเน้นธุรกิจ Catering มากขึ้น Q4/60 จะเริ่มให้บริการที่สิงคโปร์และ มาเลเซีย (สรุปจากมิติหุ้น)