"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" รวบ 4 ผู้ต้องหาอ้างเป็นตำรวจ หลอกเหยื่อโอนเงินกว่า 6 หมื่น สอบสวนพบหนึ่งในเเก๊งเคยอยู่ในเครือข่ายไต้หวัน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. ร่วมแถลงข่าวจับกุม น.ส.สุกัญญา มณีศิริรัตน์ อายุ 26 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี นายนิกร แฟนภูเขียว อายุ 34 ปี ชาว จ.นครนายก นายธีระศักดิ์ นครแก้ว อายุ 35 ปี ชาว จ.ลพบุรี และ นางอรพิมพ์ คำไล้ อายุ 58 ปี ชาวอุดรธานี พร้อมของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาคดีคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงคนไทย ซึ่งมีมูลค่าความเสียหาย 62,000 บาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจรับแจ้งว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างหลอกลวงผู้เสียหาย จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนกระทั่งทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมมือกันหลอกลวงผู้เสียหายในพื้นที่ สภ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยแอบอ้างเป็นตำรวจ และบัญชีของผู้เสียหายเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด โดยมีนายนิกร แอบอ้างเป็น ร.ต.อ.วันชัย ศรีแก้ว เพื่อหลอกผู้เสียหายก่อนจะโอนสายให้ นายธีระศักดิ์ ซึ่งแอบอ้างเป็น พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สมบูรณ์ทรัพย์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้เสียหายจนหลงเชื่อ โอนเงินเป็นจำนวน 62,000 บาท เข้าบัญชี นางอรพิมพ์ มารดานายนิกร ก่อนที่นางอรพิมพ์ จะโอนเงินต่อมาให้ น.ส.สุกัญญา ซึ่งเป็นภรรยานายนิกร และแบ่งเข้าบัญชีของแต่ละคน กระทั่งตำรวจสืบทราบและจับกุมได้ในที่สุด
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายนิกร เคยเป็นหนึ่งในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน เมื่อปี 2557 และถูกดำเนินคดีไปแล้ว ก่อนจะออกจากคุกและใช้วิธีที่เคยทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลอกลวงคนไทยด้วยกัน และครั้งนี้ก็สามารถจับกุมได้ยกแก๊งทั้งคนแอบอ้างและคนเปิดบัญชีรับโอนเงิน อย่างไรก็ตามขณะนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หมดไปจากสังคมไทยแล้ว แต่ทางตำรวจก็ยังเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ทั้งชาวต่างชาติ และคนไทยที่เคยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ ที่อาจกลับมาก่อเหตุหลังรับโทษ โดยยืนยันว่าจะจับกุมให้หมดทุกกรณี
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น” ก่อนส่งดำเนินคดีที่ สภ.ท่าใหม่ ต่อไป