เมื่อเวลา11.00 น. วันที่29 เมษายน นางสาวบี(นามสมมุติ) อายุ28 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม พร้อมกับมอบหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง บริเวณทองหล่อ ซอย10 โดยอ้างว่าคนขับแท็กซี่ขับรถออกนอกเส้นทางและพยายามจะลวนลามข่มขืน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณทางด่วนฉลองรัตน์ ถนนกาญจนาภิเษก ก่อนลงทางด่วนจตุโชค เขตคันนายาว
นางสาวบี กล่าวว่า ตนทำงานเป็นพนักงานพีอาร์ บริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันเสาร์ที่ 28 เม.ย. เวลาประมาณ 01.00 น. เดินออกจากร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ซอย10 ได้เรียกรถแท็กซี่ให้มาส่งที่รัชดา ในวันเกิดเหตุตนใส่กางเกงยีนส์ เสื้อเกาะอก มีแจ็กเก็ตคลุมอีกที ยอมรับว่าเมา ระหว่างทางเผลอหลับจนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่ารถแท็กซี่มาจอดอยู่บนทางด่วนจตุโชค ใกล้ทางลงถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม แล้วคนขับแท็กซี่มานั่งซุกอยู่ที่เบาะหลัง ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่ามานั่งข้างเบาะหลังนานแค่ไหน โดยพยายามลวนลามจะข่มขืน ตนจึงต่อสู้ขัดขืน จากนั้นได้เปิดประตูรถวิ่งหนีลงมาจากรถ คนขับรถแท็กซี่เห็นท่าไม่ดีจึงได้ขับรถหนีไป หลังจากนั้นโทรหาเพื่อนให้มารับ แต่บังเอิญมีรถแท็กซี่อีกคันผ่านมาจึงเรียกกลับบ้าน ซึ่งเส้นทางทองหล่อ-รัชดา ตนนั่งแท็กซี่ไปกลับประจำ เมื่อได้สติจึงตรวจสอบทรัพย์สินก็พบว่าเงินสดในกระเป๋าหายไปทั้งหมด 2,000 กว่าบาท พร้อมกับแหวนทองที่มือถูกถอดออกไปด้วย ในช่วงก่อนเกิดเหตุตนจำอะไรไม่ได้มาก แต่ดูภาพกล้องวงจรปิดทราบเพียงว่าเป็นรถแท็กซี่สีเขียวแถบเหลือง คนขับน่าจะอายุช่วงวัยกลางคน
ขณะที่ ร.ต.อ.สาธิต เผ่าแก้ว รองสารวัตรสอบสวน สน.สายไหม กล่าวว่า ผู้เสียหายจำอะไรไม่ค่อยได้จึงให้พามาชี้จุดเกิดเหตุ บริเวณทางด่วนฉลองรัตน์ ถนนกาญจนาภิเษก ก่อนลงทางด่วนจตุโชค ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของ สน.คันนายาว ไม่ใช่ สน.สายไหม จึงได้ประสานร้อยเวรให้มารับเรื่องและดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป
