"องอาจ" ย้อน "ประยุทธ์" ดูด "ส.ส." ไม่ใช่ครรลอง "ประชาธิปไตย" ไทย ตามอ้าง เหตุใช้ผลประโยชน์ต่อรอง หนุนนั่ง "นายกฯ" ต่อ ส่อ ขัด เจตนารมณ์ "รธน."
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ระบุว่าการดูด ส.ส.เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยของไทยตลอดมาว่า การดูด ส.ส.คงไม่ใช่ครรลองประชาธิปไตยของไทยตามที่นายกฯ กล่าวอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตนเองและให้คนในรัฐบาล เพราะการดูดส.ส.ของคนในรัฐบาลที่กำลังทำอยู่ขณะนี้มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนให้ทั้งทางตรง และทางอ้อม เพื่อหวังให้คนเหล่านี้มาอยู่กับพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งขึ้นในการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ให้มีโอกาสเป็นนายกฯ หลังจากการเลือกตั้งทั่วไป
นายองอาจ กล่าวว่า การที่คนในรัฐบาลกำลังเคลื่อนไหวใช้อำนาจหน้าที่ของการเป็นรัฐบาล และใช้ผลประโยชน์ต่างๆ มอบให้ในการเจรจา ต่อรอง ดูด ส.ส. เข้าพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกครั้งหลังการเลือกตั้ง เป็นเรื่องไม่เหมาะสม และขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจนว่า ถ้า คสช. ครม. และสนช. ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกต้องพ้นจากตำแหน่งภายใน 90 วันนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ สาเหตุที่รัฐธรรมนูญบัญญัติเช่นนี้ เพราะเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญไม่ต้องการให้ คสช. ครม. และสนช. ใช้อำนาจหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ ทั้งทางตรง และทางอ้อมในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
"ถึงแม้คนในรัฐบาลจะไม่ไปสมัคร ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่การใช้สถานะของความเป็นรัฐมนตรีดูดอดีต ส.ส. เพื่อให้มาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แล้วมาหนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไปอีกสมัยจึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม และขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ นายกฯ ประกาศอยู่ตลอดเวลาว่าอยากเห็นการเมืองไทยพัฒนาดีขึ้น อยากเห็นการเมืองแบบใหม่ที่ประชาชนมีส่วนร่วม อยากเห็นการเมืองที่มีธรรมาภิบาล เคารพหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่สิ่งที่นายกฯ และคนในรัฐบาลกำลังทำอยู่ขณะนี้ด้วยการดูด ส.ส. เพื่อสืบทอดอำนาจไม่ใช่การเมืองแบบใหม่ อย่างที่นายกฯ เคยพูดไว้อย่างแน่นอน แต่เป็นการเมืองแบบเก่าย้อนยุคเหมือนในอดีตที่ทหารยึดอำนาจด้วยการปฏิวัติรัฐประหารแล้วต้องการสืบทอดอำนาจก่อตั้งพรรคการเมืองดูด ส.ส.มาหนุนตนเองให้เป็นใหญ่ต่อไป เหมือนกับยุค จอมพล.ป พิบูลสงคราม ก็มีพรรคเสรีมนังคศิลา ยุคจอมพลถนอม กิตติขจร ก็มีพรรคสหประชาไทย ยุคพล.อ.สุจินดา คราประยูร ก็มีพรรคสามัคคีธรรม" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายองอาจ กล่าวอีกว่า มาถึงวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหาร ก็ยังทำการเมืองแบบเก่าเพื่อสืบทอดอำนาจ การดูด ส.ส. เพื่อต่อท่ออำนาจย่อมไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาการเมืองไทย และระบอบประชาธิปไตยโดยรวมอย่างที่นายกฯ เคยพูดไว้แต่อย่างใด แต่จะกลายเป็นปมปัญหาต่อการพัฒนาระบบประชาธิปไตย และขยายปัญหาให้เพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคตอีกด้วย