โฮลเทลบ้านๆ สไตล์นักจัดอีเวนท์

โฮลเทลบ้านๆ สไตล์นักจัดอีเวนท์

บ้านไก่ม่วน และปิ๊กบ้าน เมืองลำพูน เป็นโฮลเทลบ้านๆ มีสไตล์

"""""""""""""""""""""

ชีวิตคนเราเลือกได้เสมอ เมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องลองผิดลองถูก จนกว่าจะลงตัว เพราะบางทีสิ่งที่คิดฝันไว้ ก็ต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง 

เหมือนเช่น ใหม่-อุไรวรรณ ชัยพิพัฒน์ ก่อนหน้านี้มีบริษัททีมเก่งกล้า จำกัด รับจัดอีีเว้นท์ ทำมานานกว่าสิบปี จนรู้สึก เหนื่อย เครียด ล้า และตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ถ้าไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้ จะใช้ชีวิตแบบไหน”

เมื่อไม่อยากอยู่กับธุรกิจที่สร้างความเครียดให้ตัวเอง เธอจึงพลิกชีวิต จากคนกรุงเทพฯไปอยู่ลำพูน เพราะอยากอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และอยากดูแลพ่อแม่ที่เริ่มชราภาพ อาศัยว่า มีที่ดินอยู่ในจังหวัดลำพูน และตั้งใจว่าจะทำการเกษตร แต่ที่สุดแล้วไม่เป็นอย่างที่คิด

“เราก็ไม่ได้คิดว่าจะทำธุรกิจแบบเดิม ไม่จำเป็นต้องอยู่เมืองใหญ่ อยากอยู่ที่เงียบๆ พออยู่พอกิน เพราะชีวิตที่ผ่านมาตึงเกินไป เริ่มมีความอดทนน้อยกับการบริหารงานของตัวเอง และไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับครอบครัว”

เมื่อตั้งใจแเล้วว่า จะเลิกทำงานในกรุงเทพฯ เธอจึงต้องเรียนรู้เรื่องใหม่คือ การเกษตร

“พื้นที่ 6 ไร่ที่แม่ซื้อไว้เป็นสวนลำไย เราก็ไม่ได้วางแผนในการจัดการพื้นที่ คิดแค่ว่า ตรงไหนไม่มีต้นไม้ ก็ปลูกบ้าน ตอนนั้นก็คิดจะปลูกผักสลัดขาย แต่ค่อนข้างล้มเหลว เพราะคนลำพูนจะปลูกผักพื้นบ้านไว้กินเอง ”

เรื่องการเกษตร เธอก็ไม่ต่างจากหลายคน เมื่อเริ่มทำสวนก็จะพยายามไปอบรมเรียนรู้วิธีการเกษตรในที่ต่างๆ และถามจากเพื่อนๆ เครือข่ายการเกษตร

“ตอนแรกเราอยากทำทุกอย่างที่เลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่ต้องซื้อ เคยลองทำนาแปลงเล็กๆ ปลูกพืชผัก จนค้นพบว่า เราไม่เหมาะกับการเกษตรแบบชาวสวน เรายังมีจริตแบบคนกรุงเทพฯ คงทำได้แค่พืชผักสวนครัว ไม่สามารถปลูกผักส่งขายตลาดเยอะๆ เรายังดูแลไม่เป็น เคยทำปุ๋ยหมัก ตอนนั้นรู้สึกหนักไป เพราะชีวิตเราไม่เคยทำขนาดนั้น จึงต้องปรับวิธีการ”

หากถามว่า ทำการเกษตรแล้วไม่เป็นอย่างที่คิด ท้อไหม...

เธอ บอกว่า ปกติมีนิสัยไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เมื่อเลือกที่จะเดินบนเส้นทางใหม่ ก็ต้องอยู่รอดให้ได้

“แรกๆ ก็ทำแบบพอเพียง แต่ผิดทาง คิดว่า ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ประหยัดทุกอย่าง ไม่จ้างคนสวน ขุดดินและถอนหญ้าเอง กลายเป็นทำร้ายตัวเรา เพราะแม่ก็แก่ และเราก็ไม่ได้ถูกฝึกให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขนาดนั้น สุดท้ายก็เลยป่วยเป็นข้ออักเสบ จนพบว่าเรามาผิดทาง จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องทำเองทุกอย่าง ต้องปรับให้เข้ากับตัวเรา การขุดดินไม่เหมาะกับพวกเรา”

เมื่อลองปลูกผักมานานกว่าครึ่งปี เธอพบว่า สร้างรายได้ไม่มาก จึงหันมาทำน้ำพริกขายทางออนไลน์ โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า บ้านไก่ม่วน กว่าสองปีที่สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว แต่ในที่สุดธุรกิจก็ไปไม่ไกล เธอจึงดัดแปลงบ้านสวนเป็นร้านอาหาร โดยปลูกพืชผักออร์แกนิกไว้ทำอาหารในร้าน จนเป็นที่รู้จักในจังหวัดลำพูน

เมื่อทำร้านอาหารผ่านมาสามปี เธอก็ต้องเปลี่ยนแนวทางอีก เพราะคนในครอบครัววัย 70 กว่าๆ เริ่มเหนื่อยล้า จึงมาลงตัวที่โฮลเทล คือ บ้านไก่ม่วน ที่พักสองหลังในสวน และดัดแปลงบ้านเก่าทำเป็นที่พักในเมืองใช้ชื่อว่า ปิ๊กบ้าน  ทำมาสองปีจนลงตัว อาศัยว่า ทำเท่าที่ทำได้

“เราเป็นคนชอบบ้านไม้เก่าๆ มันดูมีเสน่ห์ อยากให้คนเห็นว่า บ้านเก่ามีความหมาย ไม่อยากให้บ้านเก่าหายไป เราก็ใช้เงินรีโนเวทไม่เยอะแค่หลักแสน ใช้วัสดุรีไซเคิลจากบ้านสวนมาออกแบบเองทั้งหมด โดยให้ช่างพื้นบ้านทำ  อีกอย่างเราก็ทำท่องเที่ยวเล็กๆ ในพื้นที่ พานักท่องเที่ยวไปนั่งทำจักรสานหรือใบตองประดิษฐ์กับผู้สูงอายุ และพาไปเที่ยววัด” ใหม่ เล่า 

ในฐานะเจ้าของโฮลเทลเล็กๆ สองแห่ง เธอบอกว่า กำลังจะเปิดร้านกาแฟที่ปิ๊กบ้านด้วย และตอนนี้พยายามรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว กลุ่มโฮมสเตย์และโฮลเทลไว้เป็นข้อมูล เพื่อเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้สถานที่แปลกใหม่

     “พอมาอยู่ที่นี่ ความคิดเปลี่ยนไปเลย ยิ่งเป็นผู้ให้ ยิ่งได้รับกลับมา อย่างเรื่องทำท่องเที่ยว คนที่นี่เป็นคนแก่เยอะ เคยพาเพื่อนไปเที่ยวบ้านคนแก่สอนให้ทำใบตอง เรารู้เลยว่า พวกเขามีความสุขมาก และคงดีกว่าปล่อยให้คนแก่นั่งมองท้องฟ้าไปวันๆ เราเองก็รู้สึกอิ่ม ไม่ต้องดิ้นรนมาก ไม่โลภเยอะ ทำเท่าที่พอทำได้ ต่างจากเมื่อก่อน ทำงานโดยไม่คิดถึงสุขภาพตัวเอง”

..........................

หมายเหตุ : ดูรายละเอียดได้ที่ เพจ บ้านไก่ม่วน และเพจ Pickbaan